ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 76.89 จุด หลังสหรัฐจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์พุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 24, 2010 06:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในยุโรป หลังจากมีรายงานว่าดัชนีกิจกรรมภาคธุรกิจในกลุ่มยูโรโซนอ่อนตัวลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 76.89 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 10,662.42 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 9.45 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 1,124.83 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 7.47 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 2,327.08 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 7.21 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงทันทีหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 18 ก.ย.เพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 465,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห๋ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 450,000 ราย

นักลงทุนกังวลว่าจำนวนคนว่างงานที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง และจะยิ่งฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ซบเซาลงไปอีก โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกที่พุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในรอบสัปดาห์ที่แล้วสะท้อนให้เห็นว่าภาคเอกชนในสหรัฐยังคงเลย์ออฟพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.ลดลง 54,000 อัตรา ส่วนอัตราว่างงานเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.6% จากระดับ 9.5% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อยูโรสแตทรายงานว่า ดัชนีกิจกรรมภาคธุรกิจใน 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร หรือยูโรโซน อ่อนตัวลงเนื่องจากผู้ประกอบการขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของเศรษฐกิจในยุโรป

นอกจากนี้ นักลงทุนจำนวนมากยังคงผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ในการประชุมครั้งล่าสุด แม้เฟดยืนยันว่ามีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมายของเฟดก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลยอดขายบ้านที่แข็งแกร่งช่วยพยุงตลาดหุ้นนิวยอร์กให้สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันได้ โดยสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 7.6% สู่ระดับ 4.13 ล้านยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนก.ค.ที่ระดับ 3.84 ล้านยูนิต นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดที่ระบุว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก.ค.ที่ขยับขึ้นเพียง 0.1% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายจากความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจ

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.และรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ