หุ้น AOT ราคาพุ่งขึ้น 5.66 % มาอยู่ที่ 42.00บาทเพิ่มขึ้น 2.25 บาทมูลค่าการซื้อขาย 381.73 ล้านบาทเมื่อเวลา11.04 โดยเปิดตลาดที่ 40.00 บาทราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 42.00บาทและราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 40.00 บาท
เช้านี้หนังสือพิมพ์รายงานว่า กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT)ระบุว่ายอดผู้โดยสารเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 5-6% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความมั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มนิ่ง และเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นเห็นได้จากยอดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้า
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.เคที ซีมิโก้ ระบุว่า AOT มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในระยะยาว ปัจจุบันมูลค่าหุ้นยังถูกและคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวดีกว่าตลาดในช่วงปริมาณผู้โดยสารเติบโตเป็นบวก ปริมาณผู้โดยสารในช่วง 11 เดือนแรกของงวดปี 53 เติบโตถึง 15% ดีกว่าคาด ทำให้ต้องปรับเพิ่มปริมาณผู้โดยสารรวมในปี 53 นี้อีก 1 ล้านราย เป็น 57.3 ล้านราย หรือเพิ่มขึ้น 14%YoY ขณะที่ปี 54 คาดจะกลับมาเติบโตในอัตราปกติ 6% และน่าจะมีกำไรขยายตัวสดใส
ขณะที่ผลตอบแทนก็น่าจะดีขึ้นจากการยกเลิกแพ็กเกจช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงที่มีปัญหาการเมือง นอกจากนี้ AOT อยู่ระหว่างเรียกค่าชดเชย 1 พันล้านบาทจากรัฐบาล หากได้รับอนุมัติกำไรงวดในปี 54 จะเติบโต 20% จากประมาณการปัจจุบันเป็น 1.4 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาหุ้น แนะนำ "ซื้อ" หุ้น AOT ให้ราคาเหมาะสมที่ 45.00 บาท
ด้านฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมินว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้นกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้โดยสารสายการบินในประเทศที่ลดลง เนื่องจากคนไทยหันไปเที่ยวยังต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งก็จะชดเชยนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่อาจชะลอตัวลงจากค่าเงินเช่นกัน
ส่วนกรณีที่ ครม.ได้มีมติอนุมัติโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิในปี 54-59 เมื่อ 24 ส.ค.53 โดยวงเงินลงทุนในเฟส 2 อยู่ที่ 6.25 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 45 ล้านคนเป็น 60 ล้านคน การลงทุนดังกล่าวยังไม่รวมอาคาร ผู้โดยสารในประเทศ, รันเวย์ที่ 3 และเงินชดเชยทางเสียของรันเวย์ที่ 3 ซึ่งมูลค่ารวมอีกราว 2.6 หมื่นล้านบาท
ส่วนที่สนามบินภูเก็ตได้ที่ปรึกษาทำ TOR แล้ว อยู่ระหว่างคัดเลือกผู้ออกแบบ จะใช้เงินลงทุน 5.79 พันล้านบาท เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มจาก 6.5 ล้านคน เป็น 12.5 ล้านคน ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อหุ้น AOT ในระยะยาว