บมจ.ซิตี้ สตีล(CITY)คาดกำไรสุทธิในงวด 53/54 (ส.ค.53-ก.ค.54) ใกล้เคียงงวดปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 64.5 ล้านบาท และจะรักษารายได้งวดปี 53/54 ไม่ให้ต่ำกว่างวดปี 52/53 ที่มี 593 ล้านบาท ซึ่งลดลงราว 20% จากปีก่อน เป็นผลจากตลาดในประเทศซบเซาหลังลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในโครงการมาบตาพุดที่ชะลองานก่อสร้างออกไป ทำให้บริษัทหันไปเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ ได้แก่ กลุ่มอาหารและเกษตรแปรรูป และกลุ่มยานยนต์ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา หรือ ส.ค.53 ที่ผ่านมา
ขณะที่การปรับโครงสร้างใหมปรับ CITY เป็นบริษัทโฮลดิ้ง จะช่วยการบริหารชัดเจน และมีโอกาสช่วยผลักดันรายได้
"เราตั้งเป้าไว้จากสถานการณ์โดยรวมในปัจจุบันคิดว่ารักษายอดขายให้ได้เท่าเดิมก่อน เพราะเราคิดว่าการลงทุนทางตรงคงต้องใช้เวลา...ส่วนกำไรสุทธิน่าจะใกล้เคียงปีที่แล้ว มาร์จิ้นเราดีขึ้น เป็นประมาณ กว่า 10% ควบคุมต้นทุนมาก"นายคมกริช พงษ์รัตนเดชาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CITY กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
แม้ว่าขณะนี้ปัญหามาบตาพุดจะคลี่คลายไปแล้ว แต่ธุรกิจของบริษัทยังทรงตัวอยู่ ยังไม่ดีขึ้นมาก และต้องปรับตัวหาลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาแทน แต่การปรับตัวค่อยๆเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆดีขึ้นเป็นลำดับ โดยกลุ่มใหม่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ กลุ่มอาหารและเกษตรแปรรูป และ กลุ่มยานยนต์ เสนอเป็นอุปกรณ์จัดเก็บและลำเลียงสินค้า รวมถึง ในคลังสินค้า
จากในปีก่อนผลประกอบการลดลงไป โดยรายได้ลดลงไป 100 กว่าล้านบาท หรือลดลงประมาณ 20% จากภาวะตลาดยังไม่เพิ่มมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ โดยงวดบัญชีของบริษัทในไตรมาส 1 และ 2(ส.ค.52-ม.ค.53)ยังไม่ดี และการทำตลาดต่างประเทศยังไม่เพิ่มขึ้นโดยประเทศกลุ่มเป้าหมายคือ สหรัฐ ยุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวเซีแลนด์ไม่มีการสั่งเพิ่ม จากปัญหาเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ
สำหรับในประเทศ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น แต่เมื่อดูลงไปในแต่ละ sector จะเห็นว่าการบริโภคในประเทศ่ยังมีพฤติกรรมทรงตัวในระดับต่ำ การลงทุนของภาคเอกชนก็อาจทรงตัวหนือลลดงเล็กน้อยด้วยซ้ำ แต่เพราะภาคส่งออกขยายตัวดีทำให้ดึงเศรษฐกิจเติบโตได้มาก
ส่วนโครงการที่ได้เสนองานในโครงการพื้นที่มาบตาพุด คาดว่าถ้าโครงการเดินตามปกติน่าจะเข้าไปเสนอใหม่ได้ ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสรับรู้รายได้ทันในงวดปี 53/54
ปัจจุบัน ส่วนใหญ่ตลาดอยู่ในประเทศ กว่า 90% และเป็นเหล็กแปรรูปเสียมากกว่า ส่วนยอดขายเหล็กเส้นมีไม่ถึง 10%
นายคมกริช กล่าวว่า เหตุผลที่คณะกรรมการปรับเปลี่ยนให้ CITY เป็นบริษัทโฮลดิ้ง จะทำให้บริษัทย่อยกับบริษัทแม่ไม่ต้องทำงานทับซ้อนกัน และเพื่อให้เกิดความชัดเจนการบริหารภายใน หลังจากนี้ฝ่ายบริหารแต่ละบริษัทในเครือจะจัดทำแผนมานำเสนอคณะกรรมการบริหารอีกครั้ง
ในปีนี้ บริษัทย่อยทั้ง 3 แห่งจะเปิดดำเนินการครบ จากปีก่อนดำเนินการเพียง 2 แห่ง โดยบริษัทย่อย 3 บริษัท คือ บริษัท สยาม ไอโซ โปร จำกัด, บริษัท มาร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด และ บริษัท ซิตี้ สตีล โปรดักส์จำกัด โดย CITY ถือหุ้น 100%
ทั้งนี้ บริษัท สยาม ไอโซ โปร จำกัด ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม และดำเนินงานเกี่ยวกับการลงทุนของกลุ่มบริษัท, บริษัท มาร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายโลหะและผลิตภัณฑ์โลหะแปรรูปและชิ้นส่วนโลหะและให้บริการแปรรูปโลหะ
และ บริษัท ซิตี้ สตีล โปรดักส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โลหะโครงสร้าง, ผลิตภัณฑ์โลหะที่เกี่ยวกับอุปกรณ์จัดเก็บและลำเลียง, และผลิตภัณฑ์โลหะอื่นๆ