หุ้นในกลุ่มแบงก์ส่วนใหญ่เช้านี้ปรับตัวขึ้น ตอบรับเชิงบวกต่อกระแสข่าวการปรับอัตราค่าธรรมเนียมธรรมเนียมการให้บริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าจะได้ส่งข้อสรุปการหารือของสมาคมธนาคารไทยให้กับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แล้ว
เมื่อเวลา 10.55 น.
หุ้น BAY บวก +2.24% มาที่ 22.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 589.25 ล้านบาท
หุ้น KTB บวก +1.27% มาที่ 16.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 488.62 ล้านบาท
หุ้น SCB บวก +0.76% มาที่ 99.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 481.63 ล้านบาท
หุ้น BBL บวก +1.66% มาที่ 153.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 230.13 ล้านบาท
นายธนัท รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า กระแสข่าวเรื่องผลการหารือของสมาคมธนาคารไทยเรื่องการปรับค่าธรรมเนียมการให้บริการทางการเงินถือว่าออกมาดีกว่าคาด และเป็นเชิงบวกเล็กๆกับกลุ่มแบงก์ เนื่องจากแต่เดิมนั้นคาดว่าจะยกเลิกการเก็บค่าธรรนเนียมต่างๆเลย แต่ผลที่ออกมาปรากฎว่ายังคงเก็บค่าธรรมเนียมอยู่แต่อาจจะปรับน้อยลงบ้าง เพราะฉะนั้น ถือว่าผลกระทบน้อยกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้ เดิมสมาคมธนาคารได้คาดไว้ว่าถ้าเกิดมีการไม่คิดค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินข้ามเขต จะทำให้มีความเสียหายประมาณ 1 หมื่นล้านบาท หากคิดเป็นรายได้จะทำให้รายได้ลดลงประมาณ 2% และกำไรลดลงประมาณ 6% เพราะฉะนั้น หากผลกระทบไม่ได้เป็นไปอย่างที่กังวล ก็จะทำให้ผลกระทบต่อกำไรน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม คงต้องรอติดตามข้อสรุปที่แท้จริงก่อนว่าจะออกมาเป็นอย่างที่หนังสือพิมพ์รายงานข่าวหรือไม่ ซึ่งถ้าออกมาเป็นอย่างนั้นจริง ก็คงจะเป็นปัจจัยบวกทางจิตวิทยาต่อกลุ่มแบงก์ต่อไป
แต่ภาพรวมยังคงให้น้ำหนักการลงทุนที่มากกว่าตลาดในกลุ่มแบงก์ เนื่องจากมองว่าสถานการณ์ตอนนี้กลุ่มแบงก์ยังไม่มีประเด็นอะไรที่น่ากังวล ซึ่งหากมองระยะกลางหรือระยะยาวแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศยังคงเติบโต การลงทุนต่างๆยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แนวโน้มยังจะดีต่อเนื่อง ฉะนั้น ในแง่ของตัวสินเชื่อจึงน่าจะขยายตัวได้ดี ตัวปัญหาหนี้เสียตอนนี้ก็ไม่มีใครพูดถึงแล้ว จึงเป็นผลบวกต่อการเติบโตของสินเขื่อและต่อแนวโน้มกำไรของธนาคารมากกว่า
ทั้งนี้ แนะนำซื้อหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ เช่น BBL , KBANK , SCB
สำหรับรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์เช้านี้ อ้างแหล่งข่าวระบุว่า ผลหารือเรื่องการลดค่าธรรมเนียมแบงก์พาณิชย์มีข้อสรุปประกอบด้วย ปรับมาคิดค่าธรรมเนียมการถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มข้ามธนาคารเป็นครั้งละ 10 บาททั่วประเทศ, ปรับอัตราการเบิกถอนเงินข้ามเขตมาเป็นคิดค่าบริการอัตราเดียวกันหมด 20 บาทต่อรายการ และ ปรับอัตราการโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มของธนาคารเดียวกันแต่ข้ามเขต เป็นคิดอัตราเดียวกันทั่วประเทศ 15 บาทต่อรายการ โดยให้ฟรีในรายการแรกของแต่ละเดือน