นายไพบูลย์ นลินทรางกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลประกอบการของบริษัทฯในปีนี้(2553)คาดว่าจะออกมาดีกว่าปีที่แล้ว(2552) และหากเทียบผลดำเนินงานของบริษัทฯงวด 9 เดือนปีนี้ เทียบกับ 9 เดือนปีที่แล้ว จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีการเติบโตมาก เนื่องจากวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอยู่มาก
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจหลักทรัพย์ราว 3% โดยมีสัดส่วนลูกค้ารายย่อย 50% และอีก 50% เป็นลูกค้ารายสถาบันและลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งสัดส่วนลูกค้าที่ระดับนี้ก็เป็นที่น่าพอใจแล้ว
"การหารายได้ของบริษัทฯยังมีการพาลูกค้าไปเทรดหุ้นต่างประเทศด้วย ซึ่งปัจจุบันจะพาไปเฉพาะลูกค้าสถาบัน แต่ประมาณปลายปีนี้ก็น่าจะพาลูกค้ารายย่อยไปเทรดหุ้นต่างประเทศได้ โดยขณะนี้อยู่ในช่วงของการเตรียมการอยู่"นายไพบูลย์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า เป้าหมายที่คิดไว้ในปีหน้า(2554)ก็อยากที่จะให้มีธุรกิจต่างประเทศมากขึ้น โดยเป็นลักษณะการชักชวนลูกค้าต่างประเทศมาลงทุนหุ้นไทยให้มากขึ้น และให้ลูกค้าคนไทยไปลงทุนหุ้นต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็อยากจะทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น
สำหรับธุรกิจตลาดอนุพันธ์(TFEX)ขณะนี้บริษัทฯก็มีส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์)อยู่ 2% ซึ่งก็คงจะทำไปเรื่อย ๆ เพราะฐานลูกค้าในประเทศยังไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไร
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯยังไม่มีแผนที่จะออกตราสาร DW และไม่มีแผนที่ทำ Prop. trade ด้วย