นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO)คาดว่า อัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นสูงกว่า 10% เนื่องจากมีงานที่รับเฉพาะค่าแรงซึ่งให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 20% เพิ่มมากขึ้น ส่วนงานที่รวมค่าวัสดุอุปกรณ์มีอัตรากำไร 9-10% โดยปีนี้มีสัดส่วนงานที่รับเฉพาะค่าแรงและงานที่รวมค่าวัสดุอยู่ที่ 50:50
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มั่นใจว่าในงวด 9 เดือนจะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้หรือไม่ แม้ว่าผลงานไตรมาส 3/53 น่าจะมีกำไร เนื่องจากสามารถส่งมอบงานได้เต็มที่ จากไตรมาส 2/53 พบกับอุปสรรคการชุมนุมทางการเมือง ทำให้ส่งมอบงานไม่ทัน
"เฉพาะไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 มีกำไรในตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่จะ cover ขาดทุนหมดหรือไม่หมดยังไม่รู้" นายณรงค์ กล่าว กับ"อินโฟเควสท์"
ใน่ช่วง 6 เดือนแรก SEAFCO มีผลขาดทุน 42 ล้านบาท มีรายได้ 769.78 ล้านบาท
นายณรงค์ คาดว่า รายได้ในปี 53 จะอยู่ที่ราว 1.5-1.6 พันล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 2 พันล้านบาท เนื่องจาก งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ปรับมาเป็นงานที่รับเฉพาะค่าแรงเท่านั้น ไม่มีค่าวัสดุอุปกรณ์ จึงทำให้ยอดรายได้น้อยลง แต่หากบวกวัสดุ (ปูน , เหล็ก)จะทำให้รายได้อาจจะทะลุ 2 พันกว่าล้านบาท
“ที่เราพูดว่าเคยได้ 2 พันล้านก็ไม่ใช่พลาดเป้าหรอก แต่เราไม่ได้ขายของ เหมือนให้กิเนแต่ข้าวไม่ได้กินกับ" นายณรงค์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดครึ่งปีหลังมีงานใหม่เข้ามาอีก 100-200 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่างานในมือ(backlog)ที่มีอยู่ 1.6 พันล้านบาท คาดว่ารายได้ปีหน้าจะไม่ต่ำกว่าปีนี้ รวมถึงกำไรน่าจะดีขึ้นด้วย
นายณรงค์ กล่าวว่า ปีหน้าจะเป็นปีที่ดีสำหรับบริษัทและวงการก่อสร้าง เพราะมีงานโครงการภาครัฐขนาดใหญ่เข้ามามาก นอกเหนือจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง สายสีเขียว รวมทั้งมีโครงการต่าง ๆ จากงบประมาณรัฐก็จะทำให้ธุรกิจหลายส่วนดี ขณะที่บริษัทก็มีบมจ.ช.การช่าง(CK)เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีด้วย
“ปีหน้าน่าจะเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่ง เป็นปีที่น่าจะ enjoy ถ้าพูดรวมๆน่าจะดี แต่จะได้ส่วนแบ่งเท่าไร ผมว่ามันเร็วเกินไปที่จะพูด ผู้รับเหมาหลักไม่รู้ใครจะได้ เรารู้สึกว่าถ้า CK ได้ เราก็นอนตาหลับ"นายณรงค์ กล่าว