ทิสโก้คาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้แตะ 1,100 จุด ได้Fund Flow-กองทุน RMF/LTFหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 27, 2010 16:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.ทิสโก้ คาดปลายปี 53 ดัชนีหุ้นไทยแตะ 1,150-1,000 จุด จากเป้าหมายเดิม 962 จุด ส่งให้ P/E ขึ้นมา 14-15 เท่า จากเม็ดเงินต่างชาติ และ กองุทนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) และ กองทุนรวมลงทุนหุ้นระยะยาว (LTF) อัดเข้าไตรมาส 4/53 และคาดว่าบริษัทจดทะเบียนมีอัตรากำไรเติบโต 16-17% และปีหน้าคาดอัตราเติบโตใกล้เคียง ส่วนภาวะแศรษฐกิจคาดปีนี้โต 7.4% ปีหน้าโต 4-5%

"บอกได้เลยว่า 3 เดือนนี้ ดัชนีหุ้นขึ้นตลอด ทั้งเงินจาก Fund Flow และ จากองทุนรวม RMFและ LTF...ตอนนี้ไม่มีย่อตัวแล้วไปเรื่อยๆ "นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดลูกค้าส่วนบุคคล บล.ทิสโก้ กล่าวในงาน"พิชิตลงทุน-มุ่งแนววิเคราะห์"

ก่อนหน้านี้ บล.ทิสโก้ ได้ให้เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยในปี 53 ครั้งแรก ที่ 830 จุด และปรับใหม่เป็น 962 จุด

นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นร้อนแรงตามตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ซึ่งตั้งแต่ต้นปีปรับขึ้นมา 37% และ 34% ส่วนหุ้นไทยปรับขึ้นมาแล้ว 30% ซึ่งเป็นตลาดที่ต่างชาติเช้าตลาดในแถบภูมิภาคนี้

ทั้งนี้ เดือน ม.ค.54 ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจมีการปรับฐานลง โดยปีหน้าคาดระดับดัชนีที่ 935-945 จุด จากปัญหาส่งอออกปรับตัวลดลง และปัญหามาบตาพุดที่ยังมีต่อเนื่อง รวมทั้ง ปัญหาการเมือง เช่น คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ อาจเป็นปัจจัยกดดันให้ตลาดปรับลงได้

นายวิวัฒน์ แนะให้ทยอยเก็บสะสม หุ้นกลุ่มธนาคาร ที่กำไรในไตรมาส 3/53 ทรงตัวหรือดีขึ้น ได้แก่ SCB, KBANK, BBL, KTB กลุ่มพลังงาน แนะ BANPU, PTT กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ITD, CK, SEAFCO, TTCL, STEC กลุ่มอสังหาฯ SPALI, LH,QH กลุ่มท่องเที่ยว MINT กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม AMATA, HEMRAJ กลุ่มหลักทรพัย์ ASP, KEST, KGI, BLS

ขณะที่ตลาด SET50 Index Futures นายวิวัฒน์ แนะให้เปิดสถานะ long และถือยาวไปปิดสถานะเดือนธ.ค.53 ซึ่งคาดว่า สัญญา Z10 (ธ.ค.53) วันสิ้นสุดสัญญา คาดจะปรับขึ้นไป 750 จุด หรือปรับขึ้น 90 จุด ที่ปัจจุบันอยู่ประมาณ 660 จุด

"ใครเล่นให้ open long แล้ว ก็ long ไปตลอด อย่าเล่นปิด long แล้วมาเปิด short เป็นการสวนทาง" นายวิวัฒน์กล่าว

และส่วนทองคำ คดว่าจะปรับขึ้น โดยคาดว่ใน 2 เดือนนี้จะไปถึงเป้าหมายที่ 1,300 เหรียญ/ออนซ์ หรือ 19,200 บาท ซึ่งทำสถิติใหม่

เนื่องจาก ในปีนี้เป็นปีที่ 3 กลุ่มประเทศผู้นำเศรษฐกิจ ได้แก่ สหรัฐ อียู และ ญีปุ่น ต่างประสบปัญหาเศรษฐกิจพร้อมกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี ขณะที่เศรษฐกิจในเอเชียกลับดีขึ้นมาก ส่วนรัสเซียและละตินอเมริกา เศรษฐกิจยังต้องพึ่งพิงตลาดสหรัฐและอียู ดังนั้น เงินทุนจากต่างประทศจึงไหลเข้ามาในเอเชียมาก

ด้านนายวันชัย ธัญญศิริ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและวิจัยด้านเทคนิค บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มั่นใจว่าจากนี้ไป หรือในไตรมาส 4/53 ดัชนีหุ้นไทยยังปรับตัวชึ้นต่อ จากการดูสัญญาณทางเทคนิค หรือเส้นค่าเฉลี่ย 13 วันดัชนีหุ้นไทยยังไต่ระดับขึ้นไปได้

นอกจากนี้ เงินทุนจากต่างประเทศส่วนใหญ่เข้ามาเล่นหุ้นไทย 18 ตัวในกลุ่ม SET50 จะยิ่งเป็นแรงผลักดันให้ตลาดหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่อง และไปได้ไกลตามโมเมนตัม และยังแนะว่าถ้าค่าเงินบาทแข็งค่าตลาดหุ้นไทยก็แข็งแกร่ง( Baht strong SET strong)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ