(เพิ่มเติม) SIRI ปรับเป้ายอดขายปีนี้เป็น 2.4-2.5 หมื่นลบ.,เพิ่มงบซื้อที่เป็นหมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 29, 2010 14:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บมจ.แสนสิริ(SIRI)กล่าวว่า บริษัทได้ปรับเพิ่มยอดขายในปี 53 เป็น 2.4-2.5 หมื่นล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในช่วง 9 เดือนมียอดขายแล้ว 1.6 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในไตรมาส 4/53 จะทำยอดขายสูงทุบสถิติ 9 พันล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งจะมาจากการที่บริษัทนำ 40 โครงการร่วมทำแคมเปญกับพันธมิตร

"ยอดขาย 9 เดือน มีแล้ว 1.6 หมื่นล้านบาท และเป้าไตรมาส 4 มองไว้ที่ 9 พันล้านบาท ซึ่งไตรมาส 3 ทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของยอดขายทั้งหมดที่ SIRI สามารถทำได้ในไตรมาสเดียว ถึง 6.8 พันล้านบาทมาแล้ว"นายอภิชาติ กล่าว

บริษัทได้ปรับเพิ่มงบลงทุนซื้อที่ดินในปี 53 เป็น 1 หมื่นล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 7 พันล้านบาท เพราะบริษัทเตรียมลงทุนพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องในอนาคต ทั้งคอนโดมิเนียม รวมถึงบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ โดยขณะนี้ซื้อที่ดินไปแล้ว 7-8 พันล้านบาท เชื่อว่าปีหน้าจะทำยอดขายได้ดีกว่าปีนี้

นายอภิชาติ กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่บริษัทขยายฐานลูกค้าลงมาระดับกลางถึงล่าง หรือระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท/ยูนิต โดยเพิ่งเปิดตัวโครงการดีคอนโดฯ ที่รามคำแหง และรามอินทรา ระดับราคายูนิต 1 ล้านบาท ทำให้มีสัดส่วนสินค้าที่ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทเพิ่มเข้ามาที่ 10% ของยอดขายรวม จากที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะบริษัทต้องการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม 40%, บ้านเดี่ยว 40% และ ทาวน์เฮ้าส์ 20% และกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกกลุ่ม

"แสนสิริพยายามทำทุก segment ที่ผ่านมาคนคอยให้แสนสิริทำคอนโดฯ ราคา 1 ล้านบาท พอบริษัทเปิดตัวก็ขายได้เร็ว และบริษัทก็มีความพร้อมทั้งเรื่องเงินและศักยถาพการก่อสร้างได้จริง เรามีการบริหารจัดการดี"นายอภิชาติ กล่าว

นายอภิชาติ มองว่าภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ยังไปได้ดีแม้ว่าจะมีเหตุการณ์ความไม่สงบในบางช่วง และมองว่าในปี 54 แนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมยังเป็นที่นิยมต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเมือง อย่างไรก็ดี หลายคนที่เห็นว่าตลาดคอนโดมิเนียมจะมีซัพพลายมากเกินไปนั้น เห็นว่าเป็นเฉพาะบางทำเลมากกว่า

"ปี 54 เทรนด์ตลาดก็ยังเป็นคอนโดฯ มากขึ้น ซึ่งก็แล้วแต่ location แต่ถ้าภาพรวมน่าจะทรงตัว"นายอภิชาติ กล่าว

ส่วนการลงทุนในต่างประเทศในอังกฤษนั้น บริษัทเลื่อนการลงทุนออกไป เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ดี แต่รอโอกาส เพราะเห็นว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศน่าจะลงมาอีก ซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ