นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บมจ.พรีบิลท์(PREB) ตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ที่ระดับ 2 พันล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.6 พันล้านบาท และปี 54 รายได้จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะบริษัทมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้ามาเสริมธุรกิจรับเหมาก่อสร้างซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยปีหน้ามีแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 3-4 โครงการ
ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบแนวราบและคอนโดมิเนียมที่เป็นอาคารสูง จากปัจจุบันที่เน้นการพัฒนาคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรซ์ไม่เกิน 8 ชั้น หากได้ข้อสรุปก็อาจเริ่มพัฒนาในปี 54 แต่ก็ขึ้นกับศักยภาพของที่ดินที่ซื้อเข้ามาด้วย
ส่วนธุรกิจก่อสร้าง ขณะนี้มีงานในมือ(backlog)แล้วมูลค่า 1.8 พันล้านบาท จะทยอยรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ประมาณ 30% ของมูลค่าทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปีหน้า ขณะที่บริษัทยังรอผลประมูลงานใหม่อีกกว่า 2 พันล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลภายในกลางเดือน ต.ค.นี้ คาดว่าปีนี้บริษัทจะมีรายได้จากงานรับเหมาก่อสร้าง 1.5-1.6 พันล้านบาท โดยในงวด 9 เดือนที่ผ่านมารายได้เป็นไปตามเป้า
"ช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีแผนเข้าประมูลงานเรื่อยๆทุกเดือนอยู่แล้ว แต่ถ้าเราได้งาน 2 พันล้านบาทนี้ได้ ก็อาจชะลอการประมูลงานใหม่ลงบ้าง เพราะว่าเราก็ไม่อยากโตเร็ว และคนก็อาจไม่พอ "นายวิโรจน์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ PREB คาดว่า ในปีหน้าบริษัทจะมีรายได้เติบโตมากกว่าปีนี้ เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม เดอะเทมโป ร่วมฤดี มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.นี้ และจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/54
ประกอบกับ ปีหน้าบริษัท บิลท์ แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทลูก มีแผนจะเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์อีก 3-4 โครงการ คาดจะใช้งบซื้อที่ดิน ประมาณ 1 พันล้านบาท ส่วนจะเป็นโครงการรูปแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับศักยภาพของที่ดินแต่ละแห่งที่ได้ซื้อ แต่ก็มีความเป็นไปได้ทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง
"แนวราบที่จริงเราก็อยากทำ เพราะรายได้จะรับรู้ได้เร็ว ซึ่งก็คงเป็นพื้นที่แถบชานเมือง เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ส่วนโครงการคอนโดฯ จะเน้นตามแนวรถไฟฟ้า ทั้งสายเก่าและสายใหม่" นายวิโรจน์ กล่าว
ล่าสุด บริษัทเพิ่งซื้อที่ดินได้จำนวน 1 ไร่ย่านห้วยขวาง มูลค่า 80 ล้านบาท จะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม เดอะ เทมโป 3 มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท เปิดขายในปี 54 ส่วนโครงการคอนโด เทมโป พหลโยธิน ขณะนี้มียอดจองแล้ว 215 ล้านบาท หรือประมาณ 34 ยูนิต คิดเป็น 60% จากทั้งหมด 79 ยูนิต มูลค่าโครงการ 370 ล้านบาท คาดว่าจะปิดการขายโครงการได้ภายใน 6 เดือน
นอกจากนี้ บิลท์แลนด์เตรียมจัดตั้งบริษัทใหม่ เพื่อดูแลโครงกาคอนโดมิเนียมโดยเฉพาะ เพื่อสร้างความแตกต่าง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าด้วย