แหล่งข่าวจาก บมจ.แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น(MAX)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงเหล็กกับทางธนาคารพาณิชย์ที่เป็นเจ้าหนี้ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 300-400 ล้านบาท น่าจะได้ข้อสรุปภายใน พ.ย.53 ซึ่งจะทำให้หุ้น MAX จัดเป็นหุ้น Turnaround เนื่องจากบริษัทฯกำลังจะหันไปทำธุรกิจค้าเหล็กเต็มรูปแบบ
"ถ้าจะเข้าซื้อโรงเหล็กที่เป็นโรงงานใหม่ ก็จะต้องใช้เงินถึง 700 ล้านบาท ดังนั้นการซื้อโรงเหล็กที่ทำอยู่แล้วด้วยเม็ดเงินงทุน 300-400 ล้านบาทก็ถือว่าถูก โดยโรงเหล็กนี้จะตั้งอยู่ที่สมุทรปราการ ซึ่งมีเจ้าหนี้เป็นธนาคารพณิชย์ 2 แห่ง ดังนั้นต้องรอให้ทั้งสองธนาคารคุยกันก่อน คาดว่าแบงก์จะให้คำตอบราคาขายโรงเหล็กในเดือนตุลาคมนี้ และบริษัทฯก็จะนำเรื่องเข้าบอร์ดพิจารณา และคาดว่าจะประกาศผลสรุปภายในเดือนพฤศจิกายนนี้"แหล่งข่าว MAX กล่าว
แหล่งข่าว MAX กล่าวต่อว่า เม็ดเงินที่จะเข้าซื้อโรงเหล็กในครั้งนี้คาดว่าจะใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯซึ่งคิดว่ามีมากเพียงพอ แต่ในส่วนของเงินทุนหมุนเวียนที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจค้าเหล็ก(Working Cap.)ก็อาจจะกู้เงินแบงก์ และอีกส่วนคาดว่าคงจะมาจากการเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งคงจะเพิ่มทุนแค่เล็กน้อยเท่านั้น
"เงินที่จะใช้ซื้อโรงเหล็กเรามีเพียงพออยู่แล้วจากเงินทุนในบริษัทฯ แต่ในส่วนของ Working Cap. ในการทำธุรกิจ ก็อาจจะต้องกู้แบงก์ส่วนหนึ่ง อีกส่วนก็คงจะมาจากการเพิ่มทุน แต่ก็คงจะเพิ่มเล็กน้อย ซึ่งก็คงจะต้องทำเป็น 2 ขยักด้วยกัน"แหล่งข่าว MAX กล่าว
ล่าสุด เมื่อ 15.50 น.หุ้น MAX อยู่ที่ 0.21 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท(+5%)