ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากธนาคารกลางไอร์แลนด์ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ธนาคารแองโกล ไอริช แบงค์ อย่างไรก็ตาม ดัชนีอ่อนตัวลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 20.65 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 5,548.62 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,539.06 - 5,650.33 จุด
หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงหนักสุดหลังจากมีข่าวว่าธนาคารกลางไอร์แลนด์เข้ากอบกู้กิจการแองโกล ไอริช แบงค์ โดยระบุว่าอาจต้องใช้เงินสูงถึง 3.4 หมื่นล้านยูโร (4.62 หมื่นล้านดอลลาร์) พร้อมกับเปิดเผยว่าธนาคารอัลไลด์ ไอริช แบงก์ส ต้องระดมทุนอีก 3 พันล้านยูโรก่อนสิ้นปีนี้
นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าการอัดฉีดเงินทุนในมาตรการช่วยเหลือภาคธนาคารจะส่งผลให้ไอร์แลนด์มียอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มเป็น 32% ของตัวเลขจีดีพี จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ในระดับ 11.75% ในปี 2553 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าข้อบังคับของสหภาพยุโรปที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกยูโรโซนควบคุมยอดเกินดุลการค้าให้ขยายตัวได้ไม่เกิน 3% ของจีดีพี
ทั้งนี้ ธนาคารบาร์เคลย์ส ปิดร่วง 1.9% หุ้นธนาคาร HSBC ปิดลบ 0.6% แต่หุ้นแมน กรุ๊ปในกลุ่มการเงินพุ่งขึ้น 2.8% หลังจากนักวิเคราะของ UBS ยังคงแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นแมน กรุ๊ป
หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ โดยหุ้นบีพีปิดพุ่ง 1.6% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ปิดบวก 0.3%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับเพิ่มการประเมินตัวเลขจีดีพีขั้นสุดท้ายประจำไตรมาส 2 ปี เป็นขยายตัว 1.7% จากที่ประเมินไว้ครั้งก่อนว่าขยายตัวเพียง 1.6% ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 25 ก.ย. ลดลง 16,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 453,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงแตะระดับ 460,000 ราย