DCCเผยยอดขาย Q3/53ชะลอเล็กน้อย คาด Q4/53ฟื้น,ทั้งปีเกินเป้า-ปันผลเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 1, 2010 15:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนะ สุทธิหวังเจริญ กรรมการ บมจ.ไดนาสตี้เซรามิค(DCC)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ยอดขายในช่วงไตรมาส 3/53 ชะลอตัวลงแค่เล็กน้อยจากไตรมาส 2/53 ที่มียอดขาย 1,690 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการก่อสร้าง แต่ก็เป็นยอดขายที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

จากนั้นในไตรมาส 4/53 เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวยอดขายน่าจะฟื้นตัวขึ้นและเกินเป้าหมายเหมือนกับช่วงไตรมาส 1/53 และไตรมาส 2/53 ซึ่งจะทำให้ทั้งปี 53 รายได้เติบโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 15% จากปี 52 ที่มีรายได้ 5,904 ล้านบาท และกำไรมากกว่าปีก่อนที่มีกำไร 994 ล้านบาท เพราะครึ่งปีแรกรายได้ก็เติบโตไปแล้ว 19% และทำกำไรแล้ว 677 ล้านบาท

ดังนั้น บริษัทเชื่อว่าจะจ่ายเงินปันผลได้สูงกว่าปีก่อนแน่นอน โดยในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้จ่ายปันผลไปแล้ว

"ไตรมาส 3 ช่วงหน้าฝนก่อสร้างน้อย ยอดขายชะลอตาม season ทุกปี แต่ไม่กระทบภาพรวมทั้งปีที่คาดว่ารายได้จะโตไม่ต่ำกว่า 15% เพราะครึ่งแรกโตเกิน 19% แล้ว และจะไปดีขึ้นในไตรมาส 4 เป็นปลายฝนต้นหนาวและเตรียมฉลองปีใหม่ มีการส่งเสริมการขาย ขยายตลาดนัดต่างๆ"นายชนะ กล่าว

"ผ่านไตรมาส 1 ไตรมาส 2 มาแล้วรายได้เกินเป้า และไตรมาส 4 ก็น่าจะเป็นเทรนตามนั้น...ไตรมาสไหนกำไรเยอะก็จ่ายปันผลเยอะ ปีนี้ก็คาดว่ากำไรสุทธิจะมากกว่าปีก่อนที่ 994 ล้านบาท เพราะยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งเฉลี่ยทั้งปีก็น่าจะจ่ายปันผลได้มากกว่าปีก่อน"นายชนะ กล่าว

นายชนะ กล่าวว่า จากแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 55 ล้าน ตร.ม./ปี ณ สิ้นไตรมาส 2/53 จากปี 52 ที่ 48 ล้าน ตร.ม./ปี ทำให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นไตรมาส 2/53 เพิ่มเป็น 45% จากไตรมาส 1/53 อยู่ที่ 42% และเฉลี่ยทั้งปีคาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 45% โดยช่วงครึ่งแรกของปีเฉลี่ยมาอยู่ที่ 43% แล้ว

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น ราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่ก็คาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันคงจะไม่สูงขึ้นมากแน่นอน แต่สิ่งที่ควบคุมได้คือการบริหารด้านการผลิต เพราะฉะนั้นเมื่อมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อกำไรขั้นต้นสูงขึ้น

"เราคงต้นทุนได้ดี ต้นทุนทุกโรงงานควบคุมได้ กำลังการผลิตก็เพิ่มขึ้น ควบคุมค่าใช้จ่าย จัดการของเสีย ปรับประสิทธิภาพการบริหารดีขึ้น กำไรก็น่าจะดีกว่าปีก่อนแน่นอน เพราะยอดขายเพิ่มขึ้น"นายชนะ กล่าว

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 54 เป็นต้นไปกำลังการผลิตรวมของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 60-61 ล้าน ตร.ม./ปี โดยมีแผนเพิ่มเตาอีก 1 เตา หรือผลิตเพิ่มอีกประมาณ 3 แสน ตร.ม./เดือน ส่วนจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มจากนี้อีกหรือไม่ คงต้องดูแนวโน้มอีกที แต่เบื้องต้นก็จะทำให้ยอดขายของบริษัทดีขึ้นไปอีกจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปี 54 จะมากกว่าปีนี้ หากใช้กำลังการผลิตเต็มที่

นายชนะ กล่าวว่า ตลาดหลักของ DCC อยู่ในประเทศ โดยเฉพาะต่างจังหวัด ดังนั้น จึงไม่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่ามากนัก เพราะมีการส่งออกไปเพียง 1-2% ขณะที่ตลาดในประเทศสามารถทำราคาได้ดี ซึ่งบริษัทก็พยายามรักษาลูกค้าที่มีสาขาทั่วประเทศ 200 แห่ง โดยปีนี้เปิดเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง โดยเปิดไปแล้ว 6-7 แห่ง เมื่อถึงสิ้นปี 53 น่าจะมีสาขาเกิน 200 แห่ง ส่วนปีหน้าอยู่ระหว่างศึกษาพื้นที่ที่มีศักยภาพเน้นต่างจังหวัดเป็นหลัก

"ธุรกิจเราเหตุบ้านการเมืองไม่ใช่ปัญหาแต่ฤดูกาลเป็นตัวบอกอย่างไตรมาส 3 หน้าฝนการก่อสร้างน้อย แต่พอไตรมาส 4 เป็นช่วงเทศกาลมีการเตรียมฉลองปีใหม่ประกอบกับที่เราขยายตลาดนัดมากขึ้น ส่งเสริมการขายมากขึ้นก็จะได้ลูกค้ามากขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยหนุนให้ปีนี้รายได้น่าจะได้ตามเป้าแน่"นายชนะ กล่าว

กรรมการ DCC กล่าวอีกว่า ในแง่ฐานะการเงินของบริษัทค่อนข้างแข็งแกร่ง มีเงินสดในมือสูง ไม่มีภาระเงินกู้ ดังนั้นจึงมีความคล่องตัวมาก หากตลาดดีก็สามารถขยายตลาดได้ทันที แต่ไม่ค่อยดีก็ชะลอไม่มีข้อกังวล ปัจจุบัน ส่วนแบ่งตลาดของ DCC ยังเป็นอันดับ 1 ที่ประมาณกว่า 40% ซึ่งความต้องการกระเบื้องภายในประเทศยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะต่างจังหวัด ขณะที่บริษัทได้นำสินค้ารุ่นใหม่ออกมาวางตลาดทุกเดือน

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของราคาขาย ขณะนี้ยังไม่สามารถปรับขึ้นได้ เพราะการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ