บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯหนุน"ซื้อ"หุ้น บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)ให้เป้าหมาย 198 บาท เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเกือบ 82 เหรียญฯต่อบาร์เรล โดยคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปี 2554 เท่ากับ 85 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล เพิ่ม 10% YoY จากปี 2553 ที่ 77 เหรียญฯ เงินเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่ากลับยิ่งเร่งสนับสนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลบวกต่อ PTTEP
อนึ่ง ล่าสุดเมื่อ 1 ต.ค.53 ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ปิดตลาดที่ 81.58 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์หรือ 2.01%
ด้าน บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อเมื่ออ่อนตัว"หุ้น PTTEP ให้ราคาเหมาะสม 195 บาท ด้วยมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก จาก PMI ภาคการผลิตและบริการของจีนที่ส่งสัญญาณบวก ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเทียบกับเงินสกุลหลัก ย่อมทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกรอบนี้ มีโอกาสทะลุ US$85/barrel ในช่วงสั้นๆ นี้ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ NVDR เริ่มทยอยสะสม PTTEP อย่างต่อเนื่องและในอัตราเร่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา NVDR ซื้อสุทธิ 512 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพียง 1.72% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว
ด้านเทคนิค หาก PTTEP ทะลุผ่านแนว 160 บาท แนวต้านถัดไปอยู่บริเวณ 180 บาท ซึ่งเชื่อว่าแนวต้านแรก 160 บาทน่าจะผ่านได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 3Q53 ทาง PTTEP จะมีการบันทึกเงินชดเชยประกันภัยจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลและไฟไหม้ในโครงการ Montara เข้ามา 25-40 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 788-1,260 ล้านบาท นอกจากนี้แล้ว ตามปริมาณการจำหน่ายปิโตรเลียมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก จากการเพิ่มปริมาณการจำหน่ายก๊าซของโครงการ MTJDA ในขณะที่ราคาจำหน่ายปิโตรเลียม คาดว่าจะยังสูงอยู่ตามราคาน้ำมันดิบและราคาจำหน่ายก๊าซที่ปรับเพิ่มขึ้นมาในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อ 1 ต.ค.53 หุ้น PTTEP ปิดที่ 158 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท(+2.60%)มูลค่าซื้อขาย 2,530.85 ล้านบาท