นางสาวณัฐรินทร์ ตาลทอง ประธานกรรมการบริหาร บล.กสิกรไทย(KS) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคงจะไม่สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด(มาณ์เก็ตแชร์)ในธุรกิจหลักทรัพย์ได้ตามเป้าหมายที่ 4% เนื่องจากมีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษํทเป็นรายย่อยและสถาบันในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิน่าจะทำได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากปริมาณการซื้อขายของตลาดรวมในปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นสูงมากในช่วงที่ผ่านมา
"คงต้องยอมรับว่ามาร์เก็ตแชร์ 4% ปีนี้คงไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นมาจากต่างชาติ แต่ลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนในประเทศ 70% เป็นรายย่อย อีก 30% เป็นสถาบัน"นางสาวณัฐรินทร์ กล่าว
ประธานกรรมการบริหาร KS ยังคาดว่า ในช่วง ธ.ค.คงจะมีเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก และค่าเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้มีโอกาสทะลุ 1,000 จุด โดยหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์คือกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ ส่วนหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คือ ธนาคารและพลังงาน
ส่วนในปีหน้าเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังคงปรับขึ้นต่อเนื่อง จากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่เติบโตได้ 4-5% แต่ตลาดหุ้นคงไม่หวือหวาเหมือนปีนี้
นางสาวณัฐรินทร์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีลูกค้างานที่ปรึกษาการเสนอขายหุ้น IPO แล้ว 4 ดีลที่คาดว่าจะเสนอขายหุ้นได้ในปี 54 มูลค่าระดมทุนบริษัทละไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท เป็นธุรกิจพลังงานทดแทนและพลังงานลม
ขณะที่บริษัทมีแผนเปิดสาขารูปแบบ KIC ซึ่งเป็นสาขาย่อยในธนาคาร เพื่อให้คำปรึกษรากับนักลงทุนแบบครบสวงจร โดยใช้พื้นที่ของธนาคารกสิกรไทย ในปี 54 มีแผนจะเปิดอีก 25 สาขา ใช้เงินลงทุนสาขาละประมาณ 1 ล้านบาท จากในปีนี้เปิดไปแล้ว 21 สาขาตามเป้าหมาย
และปีหน้าจะเปิดสาขา full branch อีก 2 สาขาในต่างจังหวัดใช้เงินลงทุนแห่งละ 8-10 ล้านบาท จากปัจจุบันมี 3 สาขา คือ ถนนเสือป่า เชียงใหม่ และชลบุรี