ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ของกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมหดตัวลงในเดือนส.ค.
ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 36.93 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 5,555.97 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,550.79 - 5,601.22 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนอ่อนตัวลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ของกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐประจำเดือนส.ค.หดตัวลง 0.5% มาอยู่ที่ระดับ 4.089 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของกลุ่มโรงงานในสหรัฐ หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี อาทิ คอมพิวเตอร์และเครื่องจักร ร่วงลง 1.5% ในเดือนส.ค. และยอดสั่งซื้ออุปกรณ์การขนส่งดิ่งลง 10.2%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษในวันที่ 6-7 ต.ค.นี้ และการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะทรงตัว
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอันเนื่องมาจากหุ้นบีพีดิ่งลงถึง 2% หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงเมื่อคืนนี้ ขณะที่หุ้นบีจี กรุ๊ป ปิดร่วง 1.5% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดลบ 1.6%
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก รวมถึงราคาทองแดงและนิกเกิล โดยหุ้นเอ็กซ์สตราตาปิดร่วง 2.62% หุ้นริโอทินโตปิดร่วง 1.5% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดลบ 1.5% และหุ้นคาซัคมิสปิดร่วง 2.6%