SNC วางกลยุทธระยะยาวลดต้นทุน ตั้ง SME รับบีโอไอทำสินค้าต้นน้ำ-เน้น ODM

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 5, 2010 10:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย ไทยสงวนวรกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์(SNC)เผยมีแผนตั้งบริษัทขนาดเล็กมูลค่าลงทุนไม่เกิน 20 ล้านบาทเพื่อรับสิทธิประโยชน์จากการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ(BOI) ซึ่งจะเน้นการผลิตสินค้าต้นน้ำส่งให้กับบริษัทแม่ เพื่อช่วยลดต้นทุนในการผลิตลง พร้อมปรับกลยุทธหันมาผลิตสินค้าประเภทออกแบบเอง(ODM)เพิ่มขึ้น เพื่อการบริหารต้นทุนที่ดี

"บริษัทใหม่เราก็ทำคล้ายๆกับเป็น SME เล็กๆ จดทะเบียน 20 ล้าน แล้วก็ให้เด็กเราไปเป็น MD ก็เท่ากับว่าเราได้ MD ใหม่ ได้ธุรกิจใหม่ ได้กลุ่มลูกค้ารายใหม่ สินค้าตัวใหม่ คือเป็นสินค้าต้นน้ำให้กับบริษัทแม่ เมื่อก่อนเราอาจจะต้องซื้อมาจากข้างนอก ตอนนี้เราก็ไม่ต้องซื้อก็จะช่วยลดต้นทุนในอนาคต"นายสมชัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

นายสมชัย กล่าวว่า ในอนาคตบริษัทวางแผนไว้ว่าจะมีการพัฒนาสินค้าที่เป็นการออกแบบเอง ODM มากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการผลิตให้ต่ำลงกว่าการรับจ้างผลิต(OEM) ขณะนี้ได้เริ่มการออกแบบสินค้าร่วมกับลูกค้าใหม่จากออสเตรเลียโดยตรง หลังจากเจรจาออร์เดอร์เครื่องปรับอากาศคืบหน้า โดยลูกค้าตอบรับตัวอย่างที่ส่งไปให้พิจารณาแล้วรอเพียงการเปิดคำสั่งซื้อเข้ามาเท่านั้น

"คือเมื่อก่อนเราเป็น OEM ตอนนี้เราเริ่มมาเป็น ODM แล้ว คือเราก็พัฒนาและก็ดีไซน์ให้ลูกค้า ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้เราได้ order ง่ายขึ้น ซึ่งจริงๆเราก็ค่อยๆทำมาเรื่อยๆก็ทำมาเกือบ 2 ปีแล้ว โดยเริ่มจากการที่เราเป็น OEM ให้กับลูกค้าเราก็จะรู้จุดอ่อนของผลิตภัณฑ์ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งการเป็น ODM ช่วยทำให้ประสิทธิภาพของสินค้าดีขึ้นและทำให้ต้นทุนต่ำลง"นายสมชัย กล่าว

ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมาจากธุรกิจแอร์บ้านประมาณ 70% ส่วนที่เหลือจะเป็นรายได้จากธุรกิจแอร์รถยนต์และงาน OEM อื่นๆ โดยลูกค้าหลักของบริษัทจะเป็นลูกค้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งในส่วนของแอร์รถยนต์และแอร์บ้าน และในช่วงนี้ก็จะมีลูกค้าจากประเทศในแถบเอเชียเข้ามามากขึ้นหลังจากมีการเปิดเขตการค้าเสรีขึ้น

"ลูกค้าหลักยังเป็นญี่ปุ่น ตอนนี้ก็เริ่มมีเกาหลีเข้ามา เริ่มมีหลายๆเจ้ามาคุยหลังจากที่เกิดอาฟต้า แล้วพอมีอาฟต้าบวก 3 ก็ยิ่งดีใหญ่เลย คือมีจีน ญี่ปุ่นเข้ามา ต้นทุนเราต่ำกว่ามาก จีนค่าแรงแพงกว่าเราเยอะและแรงงานเขามันไม่นิ่ง แรงงานเราฝีมือดีแล้วก็ค่อนข้างนิ่งจึงเป็นจุดแข็ง"นายสมชัย กล่าว

*คาดรายได้ H2/53 สูงกว่าครึ่งปีแรก ทั้งปีโต 40% ตามเป้า,ออร์เดอร์ล้นถึงปีหน้า

นายสมชัย กล่าวว่า บริษัทประเมินว่ารายได้ในครึ่งปีหลังจะสูงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากไตรมาส 4/53 เป็นช่วง High season ของธุรกิจ ประกอบกับ จะเริ่มมีการรับรู้กำไรจากธุรกิจฉีดพลาสติกเข้ามาในไตรมาส 3-4/53 และขณะนี้คำสั่งซื้อสินค้าใหม่มีเข้ามาจนถึงปีหน้าแล้ว จึงมั่นใจว่าเป้ารายได้ปีนี้ที่จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 40%

"บริษัทเราปกติก็โต 40-50% มาติดต่อกัน 4-5 ปีแล้ว ซึ่งหลักๆก็คงเป็นการโตตามลูกค้า และเราก็มีการขยายธุรกิจมากขึ้น ก็เลยได้ order มามากขึ้น และเชื่อว่าครึ่งปีหลังน่าจะดี คือไตรมาส 3 ก็ปกติเหมือนทั่วไปก็คือเป็นช่วงที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าเป็นช่วง Low season แต่ช่วงไตรมาส 4 ก็จะเป็นช่วงเริ่ม High season แล้ว" นายสมชัย กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือนแรก SNC มีรายได้ 4.36 พีนล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 202.43 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจฉีดพลาสติกซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำที่บริษัทลงทุนไปประมาณ 300 ล้านบาท คาดไว้ว่าจะเริ่มทำกำไรได้ในไตรมาส 3/53 ขณะนี้เริ่มเห็นกำไรแล้ว และคาดว่าจะมีกำไรเข้ามามากขึ้นในไตรมาส 4/53

นายสมชัย กล่าวถึงราคาทองแดงซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าที่มีการปรับตัวขึ้นในขณะนี้ว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทมากนัก เนื่องจากบริษัทได้มีการทำข้อตกลงกติกาไว้กับลูกค้าอยู่แล้วว่าหากราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น บริษัทก็จะมีการปรับราคาขายสินค้าขึ้นตามเช่นกัน

"ถ้าวัตถุดิบขึ้นเราก็ปรับขึ้น ถ้าวัตถุดิบลงเราก็ปรับลง เราก็คุยกับลูกค้าไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ก็คือคงไม่มีผลกระทบอะไร เราก็ทำอย่างนี้มานานแล้ว ทำมาตั้งแต่ตอนเกิดวิกฤตแล้ว"นายสมชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มราคาทองแดงในช่วงนี้ยังน่าจะปรับตัวขึ้นต่อ เพราะเข้าใกล้ช่วง High season จึงทำให้มีความต้องการสูงขึ้น แต่มองว่าคงไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากนัก เพราะช่วงนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจึงทำให้ซื้อวัตถุดิบได้ในราคาถูกลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ