บมจ.พี พลัส พี(PLUS) หรือเดิมชื่อ บมจ.ซันไชน์ คอร์เปอเรชั่น(SSE)และบมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง(GEN)มอบทีมกฎหมายศึกษากรณีที่วานนี้บอร์ด บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT)มีมติยกเลิกสัญญาบริษัท ปาร์คกิ้ง แมนเนจเม้นจ์ จำกัด ในการบริหารที่จอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากทั้งสองบริษัทถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม"ปาร์คกิ้ง แมนเนจเม้นท์" โดยเฉพาะ PLUS เดือด คาดไล่ฟ้องเป็นทอดตั้งแต่ AOT
อนึ่ง PLUS ซึ่งได้ลงทุนในบริษัท ปาร์คกิ้งฯ ประมาณ 30 ล้านบาท และลงทุนผ่านบริษัทย่อยคือ บมจ.อควา คอร์ปอเรชั่น อีก 40 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 70 ล้านบาท ส่วน GEN ได้ลงทุนในบริษัท ปาร์คกิ้งฯ ประมาณ 40 ล้านบาท แต่ชำระค่าหุ้นไปเพียง 20 ล้านบาท
*PLUS จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
แหล่งข่าวจาก PLUS เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า
"เรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการบริหารอาคารจอดรถสุวรรณภูมิของ"ปาร์คกิ้ง แมนเนจเม้นจ์"คงจะต้องมีการฟ้องร้องกันเป็นทอด ๆ ซึ่งอาจจะต้องมีการฟ้องการท่าฯด้วย ในส่วนของบริษัทฯก็ต้องให้นักกฎหมายเข้าไปดูรายละเอียดก่อนเช่นกัน
*ที่มาของปัญหาจนถึงขั้นถูกยกเลิกสัญญา
"ที่จริงตามเงื่อนไขสัญญาแล้ว ทางการท่าฯจะต้องส่งมอบพื้นที่ให้กับปาร์คกิ้งฯบริหารอาคารจอดรถหลังทำสัญญาแล้ว แต่ปรากฏว่าพอเราเข้าไปเก็บเงิน ก็มีมาเฟียเก็บอยู่ และการท่าฯก็ไม่ได้ทำอะไร เมื่อถึงเวลาก็หักเงินประกันไปตามเงื่อนไขสัญญาที่จะต้องส่งผลตอบแทนให้กับการท่าฯ แต่ตอนนี้มายกเลิกสัญญา ทาง"ปาร์คกิ้งฯ"ก็แย่ งานนี้คงจะต้องใช้เวลาเคลียร์กันนาน"
*ผลกระทบที่มีต่อ GEN ไปถึงขั้นฟ้องร้องหรือไม่
นายธีรวัฒน์ เกียรติสมภพ กรรมการผู้จัดการ GEN เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า "เม็ดเงินที่ใช้ลงทุนไม่ถือว่ามาก และเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ก็คงจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทฯ เชื่อว่าสุดท้ายแล้วก็คงจะมีทางออก แต่ในขณะนี้คงจะต้องให้นักกฎหมายเข้าไปดูรายละเอียดก่อน"
"เรื่องการลงทุนใน ปาร์คกิ้งฯ เป็นเรื่องที่ได้มีการตกลงกันไว้ก่อนที่ ผมจะเข้ามานั่งเป็นประธานกรรมการบริหาร ดังนั้น ณ ขณะนี้จึงยังไม่ค่อยรู้รายละเอียดแน่ชัดเท่าไร"นายธีรวัฒน์ กล่าว