ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นตามต่างประเทศ แต่กรอบจำกัดเหตุกังวลมาตรการธปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 6, 2010 09:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ สำนักวิจัย บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดหุ้นต่างประเทศทั้งดาวโจนส์และเอเชีย หลังได้รับอานิสงส์ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เมื่อคึนนี้ออกมาดี

แต่กรอบการปรับขึ้นยังค่อนข้างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลเรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะมีการออกมาตราการควบคุมเงินทุนไหลเข้าหลังจากค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าต่อ

"วันนี้คงรีบาวน์ต่อ เพราะได้เมื่อคืนนี้ที่สหรัฐฯและยุโรปปรับขึ้นกันทั่วโลก และยังได้บีโอเจเรื่องดอกเบี้ย แต่กรอบการขึ้นวันนี้ค่อนข้างจำกัจเพราะยังมีไม่ความชัดเจนเรื่องมาตราการควบคุมเงินไหลเข้าของแบงก์ชาติ"นายอภิชาติ กล่าว

พร้อมให้แนวรับ 955,960 จุด แนวต้าน 975,980 จุด

ขณะที่นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 975-980 จุด เนื่องจากได้รับผลบวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับขึ้น จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับยังมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ซึ่งจะส่งผลต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน และส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นด้วย

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามคือประเด็นการเมืองภายในประเทศที่จะมีการชุมนุมการเคลื่อนไหวต่างๆในช่วงเดือนนี้จะมีทิศทางเป็นอย่างไร

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ และรับเหมาก่อสร้าง ประเมินแนวรับอยู่ที่ 960-957 จุด แนวต้าน 975-980 จุด ซึ่งจะส่งผลต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน และส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นด้วย

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(5 ต.ค .) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,944.72 จุด เพิ่มขึ้น 193.45 จุด(+1.80% )เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,160.75 จุดเพิ่มขึ้น 23.72 จุด(+2.09 %) ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,399.83จุด เพิ่มขึ้น 55.31 จุด(+ 2.36 %)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,242.85 ล้านบาทเมื่อ 5 ต.ค 53
  • ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 82.82 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 1.66 %
  • ครม.ปลดล็อกเงื่อนไขประกันเงินกู้ แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ไฟเขียว บสย.จ่ายค่าประกันชดเชยลูกหนี้ ธ.ก.ส.ที่ยังไม่ถูกฟ้อง กำหนดค่าธรรมเนียมค้ำประกันตายตัว 2% ส่วนแผนไปรษณีย์ไทยปล่อยกู้ สั่ง "ไอซีที-คลัง" ทำรายละเอียดโครงการสินเชื่อรายย่อยอีกรอบ หลัง "คลัง-สศช.-สำนักงบฯ" ห่วงปัญหาหนี้เสีย ขณะที่ ธ.ก.ส.อุ้มลูกหนี้ชั้นดี ลดดอกเบี้ยลูกหนี้เอ็นพีแอล
  • ธปท.คลอดอีก 2 มาตรการ หวังลดต้นทุนและความเสี่ยงภาคเอกชน จากผลแข็งค่าของเงินบาท โดยให้ชำระสินค้าจากบัญชีเงินตราต่างประเทศ แก่บริษัทในประเทศได้และผ่อนผันธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ ที่มีจำนวนต่ำกว่า 5 หมื่นดอลลาร์ ด้านนักเศรษฐศาสตร์ชี้เป็นมาตรการลดต้นทุนผู้ประกอบการ ไม่มีผลต่อค่าเงินมากนัก
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกประกาศผ่อนคลายระเบียบควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ด้วยการผ่อนผันให้บริษัทในประเทศที่มีเงินรายได้ค่าสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศ ที่ต้องโอนเงินในบัญชีเงินฝากที่เป็นเงินตราต่างประเทศ เพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการให้แก่บริษัทอื่นในประเทศได้โดยอัตโนมัติ จากเดิมที่ต้องขออนุญาตก่อนโอนเงินเป็นรายกรณี

-กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เสนอโครงการไปรษณีย์เพื่อสินเชื่อรายย่อย ให้ครม.พิจารณา ครม.มอบหมายให้กระทรวงการคลังช่วยหาแนวร่วมกับบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือปณท.และไอซีที เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์รายละเอียดต่าง ๆ ในการจัดทำโครงการให้ชัดเจนมากขึ้น จึงนำกลับมาเสนอให้ ครม.เห็นชอบต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ