SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 973.81 จุด เพิ่มขึ้น 4.53 จุด(+0.47%) มูลค่าการซื้อขาย 16,873.08 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้บวกกรอบแคบๆ ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลบวกหุ้นในกลุ่มพลังงาน แต่ถูกประเด็นค่าเงินบาทแข็งค่ามากกดดันดัชนีไปไม่ไกล แนะติดตามต่อเนื่อง พร้อมให้แนวรับ 960 จุด แนวต้านในช่วง975-978 จุด โดยแนะเลือกลงทุนเป็นรายตัว
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 973.81 จุด เพิ่มขึ้น 4.53 จุด(+0.47%)มูลค่าการซื้อขาย 16,873.08 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวในแดนบวก โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 974.96 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 968.67 จุด
นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้โดยรวมเปลี่ยนแปลงไม่มาก แต่ที่สามารถยืนบวกได้ เพราะได้รับแรงหนุนกจากหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTT และ PTTEP ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น และประเด็นดังกล่าวยังส่งผลต่อเนื่องให้ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับในแดนบวกทั้งสหรัฐและตลาดหุ้นในเอเชียด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่ากดดันต่อเนื่อง หลังจากหลุด 30 บาท/ดอลล่าร์และมีแนวโน้มที่จะยังแข็งค่ากว่านี้อีก จึงทำให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับขึ้นได้ค่อนข้างลำบาก ถึงแม้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะมีมาตรการผ่อนคลายการทำธุรกรรรมอัตราแลกเปลี่ยนออกมาเมื่อวานนี้ แต่ไม่ได้ตรงจุด และก็มองว่าการสกัดการแข็งค่าได้ลำบาก เพราะขณะนี้ดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่าอยู่
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ มองแกว่งตัวผันผวนจากประเด็นแรงกดดันค่าเงินบาทมากขึ้นหลังจากที่เห็นการหลุดระดับ 30 บาท/ดอลลาร์แล้ว พร้อมให้แนวรับ 960 จุด แนวต้าน 975-978 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,970.63 ล้านบาท ปิดที่ 165.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 956.40 ล้านบาท ปิดที่ 299.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 770.24 ล้านบาท ปิดที่ 118.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 765.10 ล้านบาท ปิดที่ 105.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 631.44 ล้านบาท ปิดที่ 17.00 บาท ลดลง 0.10 บาท