KBANK คาด กนง.รอบนี้ชะลอขึ้นดอกเบี้ยนโยบายลดแรงกดดันบาทแข็งค่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 6, 2010 15:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน สายงานธุรกิจตลาดเงิน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)คาดว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในเดือนนี้จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อลดแรงกดดดันค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อ โดยขณะนี้เงินบาทแข็งค่าถึงระดับ 29.95 -29.97 บาท/ดอลลาร์ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะมีมาตรการมาควบคุมการไหลเข้าของเงินทุนเพื่อไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไปหรือไม่ โดยคาดว่าเงินบาทในไตรมาส 4/53 มีโอกาสแข็งค่าช่วง 29.80-30.00 บาท/ดอลลาร์ ปรับใหม่จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 30.20 บาท/ดอลลาร์

"กนง.ควรจัดลำดับความสำคัญเรื่องของเงินบาทมากกว่าเงินเฟ้อ เพราะขณะนี้เอกชนได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทอย่างมาก ดังนั้นกนง.ควรจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นมีผลช่วยชะลอการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อบางส่วน เพราะการนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักรมีต้นทุนที่ถูกลง ทำให้ราคาสินค้าต่ำลงตามไปด้วย" นายกอบสิทธิ์ กล่าว

อนึ่ง KBANK คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในปีนี้จะอยู่ที่ 3.3-3.5% และ ปี 54 อยู่ที่ 2.7-3.7%

นอกจากนี้ จากการที่ตลาดคาดว่าสหรัฐจะออกมาตรการ QE รอบ 2 ทำให้นักลงทุนเข้าไปซื้อพันธบัตรดักหน้าไว้มาก และยิ่งจะทำให้กระแสเงินทุนไหลเข้ามากขึ้น เงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง มาจากเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาหาผลตอบแทนที่สูงกว่า ซึ่งที่ผ่านมา ธปท.เข้าแทรกแซงด้วยออกพันธบัตรดูดซับสภาพคล่อง กลายเป็นช่องทางให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาเก็งกำไรในพันธบัตรภาครัฐ และ ธปท. เป็นจำนวนมาก โดยตั้งแต่ต้นปีมีเงินลงทุนเข้ามาซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น 1.4 แสนล้านบาท

ดังนั้น หาก ธปท.ยังใช้วิธีแทรกแซงในลักษณะดังกล่าวจะทำให้ ธปท.จะขาดทุนมากขึ้น และจะไม่เพียงพอในการชำระหนี้กองทุนฟื้นฟูเพื่อการพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ดังนั้น จำเป็นต้องหามาตรการดูแลการประมูลที่รัดกุมมากขึ้น เพื่อไม่ให้ต่างชาติใช้เป็นช่องทางการเก็งกำไร และควรพิจารณารอบคอบ หากจะใช้มาตรการทางภาษี เพราะจะมีผลกระทบต่อการพัฒนาตลาดทุนในอนาคต

ด้านนายศุภกร สุนทรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี(MFC) เชื่อว่า ธปท.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เต็มที่ในปีนี้ที่ 2.00% เพราะหากในการประชุม กนง.ครั้งนี้มีการชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยก็เชื่อว่าจะต้องปรับขึ้นในครั้งหน้า เพราะปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อ เกินกว่า 3% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินฝากที่แท้จริงติดลบอยู่

ส่วนค่าเงินบาท คาดว่าภายในสิ้นปี 53 จะแข็งค่าไปที่ 29.50 บาท/ดอลลาร์ และเห็นว่าเป็นเรื่องยากที่ ธปท.จะเข้าไปแทรกแซง เพราะกระแสเงินไหลเข้ามามาก โดยในตลาดหุ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีเงินไหลเข้ามาลงทุนถึง 6 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ ธปท.เป็นห่วงตามมาคือการทำให้หุ้นเฟ้อ และ อสังหาริมทรัพย์จะเป็นฟองสบู่แตก เพราะคนหันมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากกขึ้นเมื่อเห็นอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งก็จะมีผลกระทบต่อค่าเงินบาทอีก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ