บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า สายการบินไทยสมายล์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ THAI ลงนามสัญญาเข้าร่วมเป็นพันธมิตร Connecting Partner รายแรกของประเทศไทยและเป็นรายที่สองของกลุ่มพันธมิตรการบินสตาร์ อัลไลแอนซ์ โดย Connecting Partner Model เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือน พ.ค.60 โดยอนุญาตให้สายการบินเชื่อมโยงกับเครือข่ายกลุ่มพันธมิตรการบินสตาร์ อัลไลแอนซ์ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ สายการบินไทยสมายล์ให้บริการเที่ยวบินมากกว่า 396 เที่ยวบินต่อสัปดาห์สู่ 32 จุดหมายปลายทางใน 9 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ ในฐานะพันธมิตร Connecting Partner ไทยสมายล์จะช่วยเพิ่มจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ที่มีศักยภาพและน่าสนใจได้อีกถึง 11 จุดบิน
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้โดยสารที่มีแผนการเดินทางแบบใดก็ตาม รวมถึงการเชื่อมต่อระหว่างสายการบินสมาชิกสตาร์ อัลไลแอนซ์ และสายการบินไทยสมายล์ในการจองเดียวกัน จะได้รับสิทธิประโยชน์ อาทิ ผู้โดยสารสามารถเช็คอินจากต้นทางและรอรับสัมภาระที่ปลายทาง (through check-in)
นางชาริตา ลีลายุทธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมา ไทยสมายล์ได้มีการเชื่อมโยงระบบการเดินทาง กับ 3 สายการบิน ในกลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่าและออสเตรียนแอร์ไลน์ ซึ่งมีรายได้เพิ่มประมาณ 5 ล้านบาท/เดือน และคาดว่าจะเพิ่มอีก 5% ในปีนี้ และการเข้าร่วมเป็นพันธมิตร Connecting Partner ของสตาร์ อัลไลแอนซ์ อย่างเต็มรูปแบบ ในปีนี้จะเชื่อมระบบเช็คทรู กับอีก2-3 สายการบิน เช่น ANA เป็นต้น จะทำให้มีรายได้เพิ่มในปีต่อๆไปอีก
"วันนี้นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญของสายการบินไทยสมายล์ ซึ่งเรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร Connecting Partner อันเป็นการเพิ่มคุณค่าอย่างมหาศาลให้แก่ลูกค้าและภูมิภาคที่เราให้บริการ ซึ่งหากมองในเชิงกลยุทธ์แล้ว ถือเป็นการวางตำแหน่งให้ไทยสมายล์กลายเป็นผู้ประกอบการรายสำคัญในภูมิภาคนี้"นางชลิดา กล่าว
นายถาวร เสนเนียม รมว.คมนาคม กล่าวว่า การที่ สายการบินไทยสมายล์ ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร Connecting Partner ของสตาร์ อัลไลแอนซ์ จะทำให้การเดินทางของผู้โดยสารจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทย เพื่อเดินทางต่อไปในจุดบินต่างๆ มีความมั่นใจมากขึ้น ว่ามีสายการบินและเครื่องบินที่ได้มาตรฐาน สตาร์ อัลไลแอนซ์ และมีมาตรฐานการบริการเดียวกัน อีกด้วย ดังนั้น เมื่อการเดินทางต่อเชื่อมมีความเชื่อมั่น จะมีผู้โดยสารใช้บริการไทยสมายล์เพิ่มขึ้น แน่นอน จึงเป็นความร่วมมือที่ ได้ประโยชน์กับทั้งสายการบิน และผู้โดยสาร
ขณะที่นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า ไทยสมายล์ เป็นสายการบินฟูลเซอร์วิส 1 ใน 3 ของประเทศไทย ดังนั้น จึงเป็นตัวเลือกในการเดินทางต่อเชื่อมของผู้โดยสารที่เดินทางจากยุโรปและออสเตรเลียสามารถเช็คอินต้นทางและรับกระเป๋าที่ปลายทาง โดยไม่ต้องเช็คอินซ้ำ และได้น้ำหนักเท่ากับต้นทาง อีกทั้ง ไทยสมายล์ มีต้นทุนที่ต่ำกว่า การบินไทย ด้วยขนาดเครื่องบินที่เล็กกว่า ทำให้สามารถเสนอราคาที่เหมาะสมตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น
สำหรับยุทธศาสตร์ของการบินไทยปีนี้และปีหน้า คือ การขยายโครงข่าย เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันในภูมิภาคนี้ที่มีการแข่งขันเข้มข้นขึ้น และจะทำให้การบินไทยเป็นเจ้าตลาดในภูมิภาคนี้ และการนำสายการบินไทยสมายล์ทำการบินแทนในภูมิภาคนี้แทนมากขึ้นในอนาคต
และการที่ไทยสมายล์ร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มสตาร์ อัลไลแอนซ์ ทำให้ไทยสมายล์มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และให้บริการแบบไร้รอยต่อ รวมทั้งยังเพิ่มมูลค่า (Value) ให้กับสายการบินไทยด้วย เพราะลูกค้าที่อยู่ต้นทาง เมื่อจองตั๋วก็จะสามารถจองตั๋วจุดบินในประเทศที่ไทยสมายล์ทำการบินได้ด้วย ซึ่งไทยสมายล์มีเครื่องบินลำตัวแคบที่จุไม่เกิน 200 คน. ขณะที่เที่ยวบินที่จำนวนมีผู้โดยสารมากกว่า 200-300 คน การบินไทยจะทำการบินเองด้วยเครื่องบินแอร์บัสเอ 330