บมจ. จี สตีล (GSTEEL)เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ยกเลิกการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ที่เสนอขายในต่างประเทศไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน (ผู้ถือหุ้นกู้) เดิม และเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทฯ ขึ้นใหม่ในวันที่ 8 พ.ย.53 ซึ่งตามข้อกำหนดของหุ้นกู้จะต้องมีผู้ถือหุ้นกู้เข้าประชุมจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 จึงจะครบเป็นองค์ประชุม และถ้าการเรียกประชุมครั้งที่ 1 ไม่ครบองค์ประชุม บริษัทฯจะต้องเรียกประชุมครั้งที่ 2 ภายในไม่น้อยกว่า 14 วัน แต่ไม่เกินกว่า 42 วัน และจะต้องมีผู้ถือหุ้นกู้เข้าประชุมจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 จึงจะครบเป็นองค์ประชุม
ดังนั้น เมื่อวันที่ 15 ต.ค.53 บริษัทฯ ได้ส่งให้ผู้ถือหุ้นกู้ที่เสนอขายในต่างประเทศ ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน (1) หนังสือยกเลิกการประชุมผู้ถือหุ้นกู้เดิม และเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ใหม่ พร้อมทั้งข้อเสนอการแก้ไขเงื่อนไขของหุ้นกู้ที่เปลี่ยนแปลงใหม่ และ (2) หนังสือข้อเสนอการแลกเปลี่ยนหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมให้กับผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทฯ
สรุปการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของหุ้นกู้ที่สำคัญดังต่อไปนี้ 1.ยกเลิกดอกเบี้ยค้างจ่ายสะสมของหุ้นกู้ทั้งหมดที่บริษัทค้างจ่ายอยู่จำนวน 3 งวด (วันที่ 4 ต.ค.52, วันที่ 4 เม.ย.53 และวันที่ 4 ต.ค.53) งวดละ 8,925,000 เหรียญสหรัฐ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 26,775,000 เหรียญสหรัฐ
2.ผู้ถือหุ้นกู้สามารถแลกเปลี่ยนจำนวนร้อยละ 65 ของเงินต้นเดิมของหุ้นกู้ที่ตนถืออยู่เป็นหุ้นสามัญใหม่ของบริษัทฯ ในอัตราส่วน 30 หุ้นสามัญใหม่ ต่อเงินต้นเดิมจำนวน 1 เหรียญสหรัฐ ตัวอย่าง ผู้ถือหุ้นกู้จำนวน 100 เหรียญสหรัฐ จะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญของบริษัทฯ ได้จำนวน 1,950 หุ้น (30 x 65)
3. ก) เงินต้นของหุ้นกู้ส่วนที่เหลืออีกจำนวนร้อยละ 35 จะถูกปรับเหลือเท่ากับร้อยละ 14 ของจำนวนเงินต้นเดิมตัวอย่าง ผู้ถือหุ้นกู้จะเหลือเงินต้น 35 เหรียญสหรัฐจากเงินต้นเดิม 100 เหรียญสหรัฐที่แปลงเป็นหุ้นสามัญแล้วจำนวน 65 เหรียญสหรัฐ โดยเงินต้น 35 เหรียญสหรัฐดังกล่าวจะถูกปรับลดเหลือ 14 เหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 14 ของเงินต้นเดิม 100 เหรียญสหรัฐ
และ ข) การจ่ายคืนเงินต้นร้อยละ 14 ของจำนวนเงินต้นเดิมวันที่ 30 มิ.ย.54 บริษัทฯ จะชำระคืนเงินต้นจำนวนร้อยละ 5 ของเงินต้นเดิม โดยชำระเป็นเงินสด หรือจะทำข้อเสนอให้ผู้ถือหุ้นกู้ทุกรายสามารถแลกเปลี่ยนจำนวนร้อย 5 ของเงินต้นเดิมของหุ้นกู้ที่ตนถืออยู่ เป็นหุ้นสามัญของบริษัทฯในอัตราส่วน 50 หุ้นสามัญใหม่ ต่อเงินต้นใหม่ที่ปรับลดลงแล้วจำนวน 1 เหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ เงินต้นของหุ้นกู้ส่วนที่เหลือ (หรือร้อยละ 9 ของจำนวนเงินต้นเดิม)จะได้รับการชำระเป็นเงินสดเมื่อครบกำหนดระยะเวลาของหุ้นกู้ในวันที่ 4 ต.ค.58
ตัวอย่าง ผู้ถือหุ้นกู้จะเหลือเงินต้น 14 เหรียญสหรัฐหลังจากถูกปรับลดบริษัทฯ จะชำระคืนเป็นเงินสด 5 เหรียญสหรัฐ และร้อยละ 9 ของเงินต้นเดิม 100 เหรียญสหรัฐ จะได้รับเป็นเงินสดในวันที่ 4 ต.ค.58
กรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถชำระเป็นเงินสด 5 เหรียญสหรัฐได้ จะแปลงเป็นหุ้นสามัญของบริษัทฯ ได้ในอัตราส่วน 50 หุ้นสามัญใหม่ต่อ 1 เหรียญสหรัฐจำนวน 250 หุ้น (5 x 50)
4. อัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้จะลดลงจากเดิมร้อยละ 10.5 ต่อปี เหลือร้อยละ 3 ต่อปี โดยบริษัทฯ จะชำระดอกเบี้ยทุกวันทำการสุดท้ายของเดือนมิ.ย.และ ธ.ค.ของทุกปี นับจากวันที่ลงนามข้อตกลงในบันทึกแก้ไขข้อตกลงของหุ้นกู้หรือนับตั้งแต่งวดเดือนมิ.ย.54 เป็นต้นไป
อนึ่ง หากที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติการแก้ไขเงื่อนไขของหุ้นกู้ ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นกู้และบริษัทฯ ซึ่งเกิดจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 51 และเมื่อผู้ถือหุ้นกู้ได้ทำการแลกเปลี่ยนหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญของบริษัทฯแล้วเสร็จ บริษัทฯ จะสามารถลดภาระหนี้สินรวมได้จำนวนประมาณ 5,200,000,000 บาท ซึ่งเกิดจากผู้ถือหุ้นกู้แลกเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญจำนวน 110,500,000 เหรียญสหรัฐ(ร้อยละ 65 ของเงินต้นเดิมจำนวน 170,000,000 เหรียญสหรัฐ) และการปรับลดเงินต้นจำนวน 35,750,000 เหรียญสหรัฐ และดอกเบี้ยค้างจ่ายสะสมที่ยกเลิกจำนวน 26,775,000 เหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ตามหุ้นกู้จำนวนประมาณ 1,800,000,000 บาท ซึ่งเกิดจากดอกเบี้ยค้างจ่ายสะสมที่ยกเลิกจำนวน 26,775,000 เหรียญสหรัฐ และการปรับลดเงินต้นจำนวน 35,750,000 เหรียญสหรัฐ