BBLเผยกำไรสุทธิ Q3/53 โต 23%จาก Q2/53 จากกำไรเงินลงทุน-สินเชื่อโตตามศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 21, 2010 09:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกรุงเทพ (BBL) รายงานผลการดาเนินงานของธนาคารและบริษัทย่อยสาหรับไตรมาส 3 ปี 2553 มีกาไรสุทธิ 6,287 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,175 ล้านบาทหรือร้อยละ 23.0 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ลดลง 585.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.5 จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากธนาคารมีกาไรจากการขายเงินลงทุนลดลง

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ BBL กล่าวว่า ธนาคารยังคงได้รับอานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กาลังปรับตัวดีขึ้นเป็นลาดับ

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงแรก ขับเคลื่อนโดยภาคการส่งออกเป็นหลัก แต่ในขณะนี้ ภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นด้วย อัตราการใช้กาลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อสูงขึ้นด้วย สอดคล้องกับการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายหรือปรับปรุงการผลิต ตลอดจนเศรษฐกิจที่เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เงินให้สินเชื่อของธนาคาร ณ 30 กันยายน 2553 มีจานวน 1,166,487 ล้านบาท ขยายตัว 23,200 ล้านบาทหรือร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2552

ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2553 เงินฝากของธนาคารมีจานวน 1,352,306 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.6 จาก ณ สิ้นปี 2552 โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 86.3

ในไตรมาสนี้ ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 จากไตรมาส 2 ปี 2553 และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า ที่ร้อยละ 3.0 ในไตรมาสนี้ธนาคารมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้น 310 ล้านบาทและมีรายได้จากเงินลงทุนลดลง 264 ล้านบาท ชดเชยด้วยรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 512 ล้านบาท

ธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 1,240 ล้านบาทจากไตรมาส 2 ปี 2553 เนื่องจากในไตรมาสที่แล้วธนาคารมีการบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนในธนาคารสินเอเซีย สาหรับรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ส่วนใหญ่จากค่าธรรมเนียมบริการบัตรเครดิต บริการชาระเงิน และบริการวาณิชธนกิจ

ในด้านค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ธนาคารมีค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 1,159 ล้านบาทหรือร้อยละ 10.4 เป็นการลดลงเกือบทุกรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายอื่น ณ วันที่ 30 กันยายน 2553 สินเชื่อด้อยคุณภาพมีจานวน 54,144 ล้านบาท ลดลง 983 ล้านบาทจากไตรมาสที่แล้ว

และในไตรมาส 3 นี้ธนาคารมีการตั้งค่าใช้จ่ายสารองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจานวน 1,811.8 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารมีค่าสารองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจานวน 72,599 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนสารองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพแข็งแกร่งที่ร้อยละ 134.1

ธนาคารดารงสถานะเงินกองทุนในระดับสูง โดยเมื่อนับรวมกาไรสุทธิในในไตรมาส 3 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นและเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 17.5 และร้อยละ 14.2 ตามลาดับ ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2553 มีจานวน 223,455 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ