นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/53 บริษัทและยริษัทย่อย มีผลกำไรสุทธิ 329.29 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวม 2,299.61 ล้านบาท ลดลงจำนวน 1,970.32 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 86
แม้ว่าบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายสำหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 เป็นจำนวนเงิน 53,165.19 ล้านบาทเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวนเงิน 47,873.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น5,291.67 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11 ใน
ขณะที่มีต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 7,720.91 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17 ทำให้มีกำไรขั้นต้น เป็นจำนวนเงิน 689.43 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนมีกำไรขั้นต้น เป็นจำนวนเงิน 3,118.66 ล้านบาท ลดลง 2,429.23 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 78
มีสาเหตุหลักมาจากราคาตลาดของน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นมากกว่าราคาผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทมีต้นทุนน้ำมันดิบเฉลี่ยในไตรมาส 3 ของปีปัจจุบันอยู่ที่ 76 เหรียญ/บาร์เรล เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 69 เหรียญ/บาร์เรล สูงขึ้น 7 เหรียญ/บาร์เรล คิดเป็นร้อยละ 10 ในขณะที่ราคาเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์โดยรวมสูงขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง
สำหรับไตรมาส 3 ของปีนี้ บริษัทฯ มีระดับการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 172,922 บาร์เรลต่อวัน เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีระดับการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 152,146 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 14
บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้อื่น สำหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2553 เป็นจำนวนเงิน 498.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 181.14 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 182 ล้านบาท และกำไรจากสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นจำนวน 146.63 ล้านบาท ในขณะที่มีขาดทุนจากสัญญาแลกเปลี่ยนส่วนต่างราคาน้ำมันล่วงหน้าสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 111.83 ล้านบาท กำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อค้าลดลงจำนวน 29.10 ล้านบาท และอื่นๆลดลงเป็นจำนวนเงิน 6.56 ล้านบาท
ด้านต้นทุนทางการเงินสำหรับไตรมาส 3 เป็นจำนวน 150 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 382 ล้านบาท หรือร้อยละ 165 เนื่องจากในปีปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากหุ้นกู้ จำนวน 489 ล้านบาท และขาดทุนจากสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าจำนวน 34 ล้านบาท ขณะที่ในปีก่อน มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากหุ้นกู้ จำนวน 114 ล้านบาท และมีขาดทุนจากสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าจำนวน 23 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีดอกเบี้ยจ่ายลดลงเป็นจำนวนเงิน 18 ล้านบาท