CCP เผย Q3/53 พลิกมีกำไร จากมาร์จิ้น-ยอดขายสูงขึ้นตามงานภาครัฐ-เอกชน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 4, 2010 10:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ. ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี (CCP) เปิดเผยว่า งบการเงินรวมของบริษัทฯ สำหรับไตรมาส 3/53 มีผลกำไรสุทธิ รวมจำนวน 4.5 ล้านบาท เป็นผลกำไรเพิ่มขึ้น 33.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลกำไรเพิ่มขึ้น ร้อยละ 115.9 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 28.5 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 3/53 มีรายได้รวมจำนวน 543.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.0 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.1 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ประกอบด้วยรายได้ของบริษัทฯ จำนวน 295.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.4 และรายได้ของบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจจำนวน 247.8 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 33.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.4 โดยสาเหตุของการเพิ่มขึ้นของรายได้รวมในปีนี้ เนื่องมาจาก บริษัทฯ เริ่มส่งงานและรับรู้รายได้จากโครงการภาครัฐและภาคเอกชนเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ และการเพิ่มขึ้นของความต้องการอิฐมวลเบาของภาคอสังหาริมทรัพย์

ส่วนต้นทุนขายและบริการรวม จำนวน 485.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.7 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนประกอบด้วยต้นทุนขายและบริการของบริษัทฯ จำนวน 273.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.1 และต้นทุนขายและบริการของบริษัทย่อย จำนวน 211.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 ซึ่งเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของรายได้

สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นสำหรับไตรมาส 3 /53 เท่ากับร้อยละ 10.7 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 6.6 เนื่องจากรายได้ที่เติบโตขึ้นมากส่งผลให้อัตราส่วนเฉลี่ยต้นทุนคงที่ต่อรายได้ลดลง

ผลกำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้จำนวน 21.3 ล้านบาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีผลขาดทุนก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้จำนวน 5.8 ล้านบาท บริษัทฯ มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องมาจากการเติบโตของรายได้ การเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 0.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.7

ขณะที่มีต้นทุนทางการเงินจำนวน 16.5 ล้านบาท ลดลง 6.2 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 27.3 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเนื่องมาจากบริษัทฯและบริษัทย่อยได้ดำเนินการลงนามในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินทุกแห่งเรียบร้อยแล้วจึงบันทึกดอกเบี้ยจ่ายในอัตราปกติตามสัญญาในขณะที่ไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วบันทึกดอกเบี้ยในอัตราล่าช้าตามหลักความระมัดระวังรอบคอบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ