นายวินิจ แตงน้อย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ผลิตไฟฟ้า(EGCO) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/53 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเจรจาซื้อหุ้นเพิ่มเติม 10% ของหุ้นทั้งหมด ในโครงการโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ใน สปป. ลาว กำลังการผลิตติดตั้ง 1,086.8 เมกะวัตต์ ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นโดยตรงในโครงการน้ำเทิน 2 ในสัดส่วน 35% โดยจะรับรู้รายได้จากสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเติมในไตรมาส 4/53 และจะมีพิธีเปิดโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 9 ธ.ค.
จากความสำเร็จของโครงการน้ำเทิน 2 ที่สามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 30 เม.ย.53 และการซื้อหุ้นเพิ่มเติม 10% เป็นผลให้เอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 4,361.08 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้า 14 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 52 จำนวน 380.38 เมกะวัตต์ หรือ 10%
สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 53 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.53 เอ็กโก กรุ๊ป มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 6,575 ล้านบาท ลดลง 80 ล้านบาท หรือ 1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 52 ซึ่งคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 12.49 บาท และหากไม่คำนึงถึงกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จะมีกำไร 6,039 ล้านบาท ลดลง 270 ล้านบาท หรือ 4% ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ค่าไฟฟ้าที่ลดลงของโรงไฟฟ้าระยอง บีแอลซีพี และแก่งคอย 2
ผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 53 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ และได้สะท้อนถึงฐานะการเงินที่ยังแข็งแกร่งของบริษัทฯ ซึ่งมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 65,930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,010 ล้านบาท หรือ 5 % เมื่อเทียบกับสิ้นปี 52 ในขณะที่มีหนี้สินรวม 11,242 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 52 จำนวน 584 ล้านบาท หรือ 5% และมีเงินสดและรายการเทียบเท่าคงเหลือ 6,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 52 ทั้งสิ้น 868 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ที่ 8.32 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.21 เท่า ต่ำกว่าสิ้นปี 52 ซึ่งเท่ากับ 0.23 เท่า
ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป ได้จำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 3,931.43 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็น 13.04% ของกำลังการผลิตทั้งประเทศจำนวน 30,160 เมกะวัตต์