นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธีระมงคล อุตสาหกรรม(TMI) คาดว่า ไตรมาส 4/53 อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 30% ได้หลังตกไปอยู่ที่ 24% ในไตรมาส 3/53 เพราะได้เจรจาขอขึ้นราคาสินค้ากับคู่ค้าและลูกค้าตั้งแต่เดือน ต.ค.-พ.ย. โดยเป็นการปรับราคาขายขึ้นทั้งอุตสาหกรรมทำให้คู่ค้าและลูกค้ายอมรับได้ ตอนนี้เริ่มมีออเดอร์จากต่างประเทศสั่งเข้ามามากขึ้นก่อนที่จะมีการปรับราคาขาย
“ส่วนตัวยังไม่พอใจ เราคาดหวังว่าจะทำได้ดีกว่านี้ ส่วนแนวโน้มรายได้ไตรมาส4น่าจะดีกว่านี้เพราะปกติเป็นช่วงไฮซีซั่นของเรา เชื่อว่ารายได้รวมของเราในปีนี้จะโตได้ 17-20% ตามเป้าแน่นอน"
ขณะที่แนวโน้มธุรกิจช่วงที่เหลือของปี ส่วนตัวคิดว่าในประเทศจะไม่มีปัจจัยลบใดๆอีก ส่วนเหตุการณ์น้ำท่วมในเขตภาคกลางและภาคใต้ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อบริษัทฯแต่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เชื่อว่าหลังน้ำลดแล้วแนวโน้มน่าจะดีขึ้นด้วยเพราะต้องมีการซ่อมแซมบ้าน
นายธีระชัย ยังกล่าวอีกว่าจนถึงสิ้นปีคงยังไม่มีแผนการตลาดใหม่ออกมากระตุ้นยอดขาย เพราะกำลังเตรียมเรื่องติดตั้งเครื่องจักรที่ได้สิทธิจากบีโอไอ แต่กำลังเปิดรับฝ่ายการตลาดเพื่อมารุกช่องทางขายผ่านโมเดิร์นเทรดมากขึ้นในปีหน้า จากปัจจุบันมีช่องทางขายแห่งเดียว ปีหน้าคาดว่าจะขยายช่องทางขายผ่านโมเดิร์นเทรดได้มากกว่า 1 แห่ง
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/53 ของบริษัทมีรายได้รวม 85.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 75.75 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวม 9 เดือนอยู่ที่ 247.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 214.70 ล้านบาท จากการขยายตลาดใหม่อย่างต่อเนื่องส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นทดแทนตลาดเดิมที่กำลังซื้อแผ่วลงเล็กน้อย โดยสินค้าประเภทหลอดไฟมีการเติบโตดีที่สุด
กำไรสุทธิไตรมาส 3/53 อยู่ที่ 4.9 ล้านบาทลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไร 7.8 ล้านบาท คิดเป็น 36.49% ขณะที่กำไรสุทธิรวม 9 เดือนอยู่ที่ 17.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 14.88 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรในไตรมาส 3/53 ลดลงมาจากปัจจัยลบเรื่องของราคาวัตถุดิบหลักคือทองแดงและซิลิคอนในตลาดโลกปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วโดยบริษัทฯตรึงราคาขายไว้ส่วนหนึ่ง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯลดลง