นายกรัณย์พล อัศวสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น (SYMC) ผู้ประกอบการธุรกิจให้เช่าโครงข่ายวงจรสื่อสารความเร็วสูงบนสายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง เปิดเผยว่า บริษัทแต่งตั้ง บล.ธนชาติ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Lead Underwriter) หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 72 ล้านพร้อมด้วย บล.อีก 8 แห่งเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Underwriter) ได้แก่ บล.กสิกรไทย บล.เอเชีย พลัส บล. โกลเบล็ก บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) บล. เคที ซีมิโก้ บล. บัวหลวง บล. ไทยพาณิชย์ และ บล.นครหลวงไทย
ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่หุ้นละ 8.80 บาท เปิดให้จองซื้อได้ในวันที่ 17-19 พ.ย.53 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ICT ในวันที่ 26 พ.ย.53
“มั่นใจว่าหุ้น IPO ของซิมโฟนี่ จะได้รับตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เพราะเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง อัตราหนี้สิน/ทุน เพียง 0.3 เท่า ในขณะที่ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี และธุรกิจมีทิศทางการเติบโตชัดเจน ประการสำคัญเราเป็นบริษัทฯ ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า 70% และมีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 30-35% ในช่วง 1-3 ปีที่ผ่านมา
...จากการทำ Book building กับนักลงทุนสถาบัน ก็พบว่าได้รับความสนใจอย่างสูงจากนักลงทุนกลุ่มดังกล่าว โดยแสดงความต้องการผ่านการ Book building ล้นกว่า 6 เท่า จากสัดส่วนของสถาบัน" นายกรัณย์พล กล่าว
สำหรับ เงินทุนที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะนำไปลงทุนเพื่อขยายโครงข่ายเพิ่มเติมให้ครอบคลุมความต้องการ โดยเบื้องต้นจะขยายโครงข่ายไปในนิคมอุตสาหกรรม 11 แห่งในภาคกลางและภาคตะวันออก ซึ่งจะทยอยลงทุนต่อเนื่องและครบตามแผนในปี 56 รวมทั้งจะ ติดตั้งระบบโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงภายในพื้นที่อาคารสำนักงานชั้นนำในเขตกรุงเทพฯ ให้ได้ 150 อาคารภายในปี 56 เช่นเดียวกัน จากปัจจุบันที่ให้บริการอยู่แล้ว 28 อาคาร เพื่อขึ้นสู่เป้าหมายเป็นผู้ให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงชั้นนำที่ให้บริการทั้งในประเทศและระหว่างประเทศที่มีความเป็นกลางในอนาคตอันใกล้นี้
ปัจจุบันโครงข่ายวงจรสื่อสารความเร็วสูง บนสายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงของบริษัทครอบคลุมพื้นที่ศูนย์กลางทางธุรกิจเกือบ 100% ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในขณะที่ความต้องการใช้ยังเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาคารสำนักงานที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และในเขตนิคมอุตสาหกรรมที่มีโรงงานของบริษัทข้ามชาติตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ความต้องการใช้โครงข่ายประเภทนี้เติบโตเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นนโยบายการเปิดเสรีกิจการโทรคมนาคมของ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ยิ่งช่วยให้ความต้องการใช้โครงข่ายใยแก้วนำแสงเติบโตเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน ซึ่งซิมโฟนี่ก็ถือเป็นทางเลือกที่มีศักยภาพ เพราะเป็นผู้ให้วงจรสื่อสารความเร็วสูงภายในประเทศระดับพรีเมี่ยม เน้นการให้บริการที่ให้คุณภาพสูงแก่ลูกค้า และรับประกันคุณภาพของงานด้วย Service Level Agreement (SLA) ที่ 99.9% ทำให้ลูกค้ามั่นใจถึงคุณภาพของโครงข่ายของบริษัทฯ ประการสำคัญยึดมั่นความเป็นกลางในการให้บริการกับพันธมิตรทุกราย โดยมุ่งให้บริการเป็น Network Provider เท่านั้น ไม่ทำธุรกิจอื่นๆ แข่งขันกับลูกค้า จึงเชื่อว่าจะตอบโจทย์ของผู้ได้รับใบอนุญาตในการประกอบกิจการโทรคมนาคมทุกประเภทได้เป็นอย่างดี
ด้าน นางสาวสุนันท์ เลิศสีทอง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน มั่นใจว่าหุ้นเพิ่มทุนของซิมโฟนี่จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท
โดยกำหนดราคาขายไอพีโอ 8.80 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็นค่า P/E ประมาณ 13 เท่า โดยให้ส่วนลดประมาณ 15-20% จาก ค่า P/E ของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและของกลุ่ม ICT ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับประมาณ 15-16 เท่า ประกอบกับช่วงนี้สภาพการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โดยรวมดีขึ้นเป็นอย่างมาก จึงถือเป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้หุ้นน้องใหม่อย่าง ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่นได้รับความสนใจ และคาดว่าเมื่อเข้าทำการซื้อขายจะไม่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวัง
“หาไม่ได้ง่ายนักสำหรับบริษัทฯ ที่มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 70% และมีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 35%" นางสาวสุนันท์ กล่าว