บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า บริษัทมีรายการเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ตั้งแต่ปี 2533 ถึงปี 2539 ค้างชำระจำนวน 5,679 ล้านบาท และมีการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญไว้ 5,391 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ขายสิทธิเรียกร้องในหนี้ของลูกหนี้รายหนึ่งให้กับบุคคลอื่นและบุคคลอื่นได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันจึงมียอดค้างชำระลดลงเหลือ 5,000 ล้านบาท และมีการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญไว้ 5,000 ล้านบาทเช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการติดตามให้ชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยลูกหนี้เงินให้กู้ยืมจำนวน 2,983 ล้านบาท บริษัทฯ ได้ดำเนินการออกจดหมายทวงหนี้ครั้งแรกในช่วงเดือนมกราคม 2550 เมื่อครบกำหนด 30 วัน บริษัทฯ ได้ออกจดหมายทวงถามครั้งที่สองแล้ว ปรากฏว่ายังไม่ได้รับชำระหนี้
ในจำนวนมีลูกหนี้รายหนึ่งที่มียอดค้างชำระจำนวน 2,647 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ พิจารณาจากงบการเงินของลูกหนี้แล้ว เห็นว่าไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ แต่มีช่องทางในการฟื้นฟูกิจการ บริษัทฯ จึงดำเนินการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทดังกล่าวต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2550 และศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2550 ต่อมามีเจ้าหนี้สองรายได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟู กิจการของลูกหนี้รายดังกล่าว โดยลูกหนี้พยายามยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการด้วยตนเอง และศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ
เนื่องจากลูกหนี้รายดังกล่าวมีเจ้าหนี้สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ยื่นฟ้องล้มละลายตั้งแต่เดือนมกราคม 2549 และยังมีเจ้าหนี้อีกรายหนึ่งยื่นฟ้องล้มละลายในเดือนตุลาคม 2550 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดลูกหนี้รายดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2552 บริษัทฯ ได้ยื่นขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว โดยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2553 เจ้าหนี้ได้ลงมติในการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย และศาลล้มละลายกลางได้กำหนดนัดไต่สวนลูกหนี้รายดังกล่าวโดยเปิดเผย ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2553
ส่วนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมที่เหลือจำนวน 2,017 ล้านบาท บริษัทฯ ได้ติดตามลูกหนี้สองรายที่มียอดค้างชำระรวมกัน 2,013 ล้านบาท หลังจากที่บริษัทฯ ได้ดำเนินคดีไปพร้อมกับติดตามทวงถามหนี้จากลูกหนี้รายดังกล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่เป็นผลสำเร็จเนื่องจากลูกหนี้ดังกล่าวมีหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สิน จึงไม่มีความสามารถในการชำระหนี้แก่บริษัทฯ ได้ ดังนั้น บริษัทฯ จึงอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อดำเนินกระบวนการฟ้องร้องล้มละลายกับลูกหนี้รายดังกล่าว