นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผย ธนาคารได้ร่วมกับ บริษัทไปรษณีย์ไทยบริการโอนเงินรับปลายทางที่ไปรษณีย์จากกสิกรไทย หรือ K-Bank to Post เป็นช่องทางใหม่ที่จะทำให้ลูกค้าสามารถโอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคาร ซึ่งมีกว่า 7,500 เครื่องทั่วประเทศ โดยผู้รับเงินสามารถรับเงินได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าผู้รับเงินโอนที่อยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งยังไม่มีสาขาและตู้เอทีเอ็มของธนาคารเปิดให้บริการ
“ปัจจุบันบริการด้านเงินโอน เป็นหนึ่งในธุรกรรมทางการเงินที่ลูกค้าใช้บริการผ่านธนาคารมากที่สุด โดยธนาคารฯ มีฐานลูกค้าที่ใช้บริการโอนเงินเป็นประจำมากถึง 2 ล้านราย ส่วนใหญ่ 80% จะโอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มเป็นหลัก ซึ่งบริการโอนเงินรับปลายทางที่ไปรษณีย์จากกสิกรไทย จะช่วยบริการด้านเงินโอนของธนาคารครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะผู้รับเงินที่อยู่ต่างภูมิลำเนา หรือลูกหลานที่ต้องการโอนเงินให้บุพการีซึ่งอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดห่างไกลที่ยังไม่มีสาขาหรือตู้เอทีเอ็มให้บริการ" นายกฤษฎากล่าว
ด้านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า บริการ K-Bank to Post ถือเป็นมิติใหม่ของการโอนเงินที่จะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศ ซึ่งบริการนี้จะเป็นการผสานระหว่างความสะดวกรวดเร็วของการใช้เอทีเอ็ม และการเข้าถึงในทุกพื้นที่ของที่ทำการไปรษณีย์เข้าด้วยกัน โดยหลังจากได้รับแจ้งจากผู้โอนเงินแล้ว ผู้รับเงินเพียงแค่แจ้งรหัสรับเงินและหมายเลขบัตรประชาชนเพื่อติดต่อขอรับเงิน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ใดก็ได้ในจำนวน 1,200 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะสามารถรองรับการใช้บริการของลูกค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่
ทั้งนี้ บริการ K-Bank to Post ลูกค้าเอทีเอ็มของธนาคารสามารถโอนเงินได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อรายการ คิดค่าธรรมเนียมที่ 53 บาท สำหรับเงินโอน 1,000 บาท แรก และ 2 บาทสำหรับทุก 1,000 บาทถัดไป พร้อมระบุเลขหมายบัตรประชาชนของผู้รับเงิน ส่วนผู้รับเงินใช้หลักฐานเพียงบัตรประชาชน พร้อมรหัสอ้างอิง 8 หลัก ที่ผู้โอนแจ้งให้ผู้รับเงินทราบ ก็ติดต่อขอรับเงินได้ที่ไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ หากยังไม่มีผู้รับเงินภายใน 5 วัน ไปรษณีย์ไทยจะโอนเงินกลับเข้าบัญชีผู้โอนเงินในวันถัดไป
ลูกค้าสามารถใช้บริการ K-Bank to Post ผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทย ได้ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.54 เป็นต้นไป โดยคาดว่าในช่วงแรกจะมีปริมาณธุรกรรมการใช้บริการดังกล่าวประมาณ 70,000 รายการต่อเดือน และมีอัตราการเติบโตราว 23% ต่อปี