นายกิตติ ชีวะเกตุ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์(UAC) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บมจ.ปตท. (PTT) และ UAC ได้ดำเนินการเจรจาสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติอัดมีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงทั้ง 2 ฝ่ายได้ไม่เกินเดือน ม.ค.54 หลังจากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายจะนำข้อตกลงผ่านกระบวนการอนุมัติเพื่อลงนามสัญญาต่อไป
สำหรับโครงการผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง(CBG)ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการออกแบบโรงงาน โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 6-8 ตัน/วัน หรือมีกำลังการผลิตสูงถึง 2,160 ตัน/ปี วัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตจะมาจากวัตถุดิบที่เหลือจากกระบวนการแปรรูปทางการเกษตร และปศุสัตว์ เช่น มูลสุกร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ และสามารถส่งก๊าซชีวภาพอัดฯให้กับปตท.ได้ตั้งแต่ ม.ค.55 เป็นต้นไป
สำหรับผลการดำเนินงานทั้งปี 53 บริษัทคาดว่าจะรายได้เติบโตเกินเป้าที่วางไว้ 743 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากธุรกิจนำเข้า และจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น รวมทั้งยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัท บางจากไบโอฟูเอล(BBF)ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทกับบมจ.บางจาก(BCP)อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายวิชัย พรกีรติวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ PTT กล่าวว่า สาเหตุที่ ปตท. ตัดสินใจเลือก UAC เป็นพันธมิตร เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการนี้ อีกทั้งโครงการดังกล่าว เป็นการพึ่งพาตนเองทางด้านพลังงาน และช่วยในด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อลดมลภาวะที่เกิดขึ้นจากการใช้ก๊าซธรรมชาติอัด โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นการเซ็นสัญญาระยะยาว 15 ปี และรับซื้อก๊าซทั้งหมดที่ UAC ผลิตได้
“ก๊าซ CBG มีคุณสมบัติโดดเด่น เมื่อเทียบกับก๊าซอื่นๆ และถือเป็นพลังงานทางเลือกหนึ่ง ตามนโยบายการสนับสนุนของภาครัฐที่ต้องการให้คนไทยหันมาใช้พลังงานทดแทน เพื่อลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ“ นายวิชัย กล่าว