BLS เผยกำไรปี 53 โต 118.99% จากวอลุ่มตลาดสูงขึ้น-รายได้ IB เพิ่ม-DW

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 28, 2011 18:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.บัวหลวง (BLS)เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิในปี 53 เท่ากับ 491.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 266.83 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 118.99 จากกำไรสุทธิในปี 52 ซึ่งเท่ากับ 224.25 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจวาณิชธนกิจ และรายได้จากใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์

ด้านรายได้ รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 286.13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.99 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดโดยรวม แม้ว่าอัตราค่านายหน้าเฉลี่ยจะลดลงตามอัตราค่านายหน้าแบบขั้นบันไดซึ่งเริ่มต้นใช้บังคับตั้งแต่เดือน ม.ค.53 ก็ตาม

แต่รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ลดลงจาก 79.61 ล้านบาทในปี 52 เป็น 66.22 ล้านบาทในปี 53 คิดเป็นลดลงร้อยละ 16.82 เนื่องมาจากส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทในส่วนของ Index Futures ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเท่ากับ 327.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับรายได้ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งเท่ากับ 161.05 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของผลงานการระดมทุนในตลาดทุนและรายได้จากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

กำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์มียอดสุทธิเป็นผลกำไรจำนวน 117.97 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการตีมูลค่าใบสำคัญแสดงสิทธิ์อนุพันธ์ ณ วันสิ้นงวด ซึ่งจะครบกำหนดอายุในเดือน ม.ค.54 ขณะที่รายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลเท่ากับ 41.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 32.33 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 52 มีสาเหตุหลักมาจากปริมาณเงินฝากของลูกค้าโดยเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น และมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในปี 53 รวมถึงการเพิ่มขึ้นของเงินปันผลรับจากการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัท

ส่วนรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น 7.79 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกำไรจากการขายทรัพย์สินที่ตัดจำหน่ายค่าเสื่อมราคาทั้งจำนวนแล้วด้านค่าใช้จ่าย

ด้านค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้นสุทธิ 4.26 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.38 ทั้งนี้ มีสาเหตุมาจากปริมาณเงินฝากของลูกค้าโดยเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น และมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ค่าธรรมเนียมและบริการจ่ายเพิ่มขึ้นสุทธิ 15.22 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์

หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ (โอนกลับ)การเพิ่มขึ้นของการตั้งสำรองจำนวน 21.40 ล้านบาทเป็นผลมาจากการที่บริษัทมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 195.79 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.63 มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรขั้นต้นของบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ