(เพิ่มเติม) ADVANC จะทำหนังสือโต้แย้ง-ค้านข้อเรียกร้องทีโอทีให้ชำระเงินส่วนแบ่งรายได้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 3, 2011 13:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงษ์อมร นิ่มพูลสวัสดิ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) แจ้งว่า บมจ.ทีโอที ได้มีหนังสือถึงบริษัทฯ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554 แจ้งให้บริษัทฯ ชำระเงินส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเติมในกรณีการปรับลดส่วนแบ่งรายได้บริการบัตรเติมเงิน (Prepaid Card) การหักค่าใช้จ่ายการใช้เครือข่ายร่วม (Roaming) จำนวนเงินรวม 36,995,636,889.80 บาท และการหักค่าภาษีสรรพสามิตออกจากส่วนแบ่งรายได้และภาษีมูลค่าเพิ่มเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม จำนวนเงินรวม 36,816,942,676.13 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีให้แก่ ทีโอที ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะได้มีหนังสือโต้แย้งคัดค้านข้อเรียกร้องข้างต้นของทีโอทีต่อไป โดยในส่วนการปรับลดส่วนแบ่งรายได้บริการบัตรเติมเงิน (Prepaid Card) และการหักค่าใช้จ่ายการใช้เครือข่ายร่วม (Roaming) นั้น บริษัทระบุว่า ตามหนังสือเรียกร้องของทีโอทีข้างต้น ทีโอทีได้กล่าวอ้างบางส่วนของคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม. 1/2553 (“คำพิพากษาฯ") เป็นเหตุเรียกร้องให้บริษัทฯ ชำระเงินดังกล่าว แต่ความจริงแล้ว คำพิพากษาฯ ดังกล่าวหาได้มีผลผูกพันบริษัท ฯ แต่อย่างใดไม่ เนื่องจาก ทั้งทีโอที และบริษัทฯ ต่างมิได้เป็นคู่ความในคดี

ศาลดังกล่าวหาได้วินิจฉัยให้เพิกถอนข้อตกลงต่อท้ายสัญญาอนุญาตให้ดำเนินกิจการบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ครั้งที่ 6 กรณีบริการบัตรเติมเงิน (Prepaid Card) และครั้งที่ 7 กรณีการใช้เครือข่ายร่วม (Roaming) แต่อย่างใดไม่ รวมทั้ง มิได้วินิจฉัยว่าบริษัทฯ กระทำผิดโดยไม่ปฏิบัติตามข้อสัญญา หรือวินิจฉัยให้ข้อตกลงต่อท้ายสัญญาทั้งสองฉบับ ไม่มีผลผูกพันระหว่างทีโอทีและบริษัทฯ แต่อย่างใด

ข้อตกลงต่อท้ายสัญญาอนุญาตฯ ทั้งสองฉบับยังคงมีผลใช้บังคับและผูกพันคู่สัญญาให้ต้องปฏิบัติตามต่อไป อีกทั้ง การปฏิบัติในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงต่อท้ายสัญญาฯทั้งสองฉบับอย่างครบถ้วนและถูกต้องมาโดยตลอด ดังนั้น บริษัทฯ จึงไม่มีหน้าที่ต้องชำระเงินส่วนแบ่งรายได้และเงินอื่นใดตามที่ ทีโอทีเรียกร้องมา

สำหรับกรณีการนำภาษีสรรพสามิตมาหักออกจากเงินส่วนแบ่งรายได้นั้น บริษัทระบุว่า ในระหว่างปี 2546 ถึงปี 2550 ซึ่งมีการนำภาษีสรรพสามิตมาหักออกจากเงินส่วนแบ่งรายได้นั้น ทีโอที ไม่เคยเรียกร้องให้บริษัทฯ ชำระเงินจำนวนดังกล่าว แต่ได้ยืนยันความถูกต้องว่าได้รับส่วนแบ่งรายได้ครบถ้วนตามสัญญาแล้ว ด้วยการออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีและคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารที่ออกเพื่อประกันการชำระเงินส่วนแบ่งรายได้มาโดยตลอด

ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม เบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม ที่ทีโอทีเรียกร้องนั้น บริษัท ฯ ไม่มีหน้าที่ต้องชำระเนื่องจาก หากจะมีภาษีหรือภาระดังกล่าวเกิดขึ้นจริงแล้ว ก็เป็นหน้าที่ความรับผิดของทีโอทีในฐานะผู้มีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร อีกทั้ง ทีโอทีเองก็เป็นฝ่ายโต้แย้งกรมสรรพากรว่า กรมสรรพากรไม่อาจประเมินเรียกเก็บภาษีดังกล่าวได้

ทั้งนี้ การเรียกร้องของทีโอทีในกรณีดังกล่าวนี้ เป็นการเรียกร้องซ้ำซ้อนกับเงินจำนวนเดียวกันที่ ทีโอที ได้เรียกร้องในเรื่องภาษีสรรพสามิตไว้แล้ว ด้วยวิธีการอนุญาโตตุลาการ ณ สถาบันอนุญาโตตุลาการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2551 โดยขณะนี้ข้อพิพาทอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ บริษัทฯ ยังมิได้รับหนังสือจากทีโอที และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือหน่วยงานของรัฐอื่น เพื่อเจรจาเกี่ยวกับการแก้ไขสัญญาฯกับบริษัทฯ และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบภายใน 15 วัน ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ