บมจ.บางกอก เชน ฮอลปิทอล (KH) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 332.500 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น
และ จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.125 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 207.813 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2553 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 166.250 ล้านบาท จึงจะจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.025 บาท คิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 41.563 ล้านบาท รวมเป็นการจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.325 บาท เงินปันผลทั้งหมดจะถูกหักภาษี ณ ที่ จ่าย ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด
โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับหุ้นปันผลและเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม. 225 ของพ.ร.บ หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียน ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2554 กำหนดจ่ายหุ้นปันผลและเงินปันผลดังกล่าวภายในวันที่ 18 พฤษภาคม 2554
นอกจากนี้ อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียน จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,662,500,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 1,662,498,769 บาท แบ่งออกเป็น 1,662,498,769 หุ้น โดยการลดหุ้นสามัญจำนวน 1,231 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1บาท
และอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจากทุนจดทะเบียนเดิม 1,662,498,769 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 1,995,000,000 บาท แบ่งออกเป็น 1,995,000,000 หุ้น โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 332,501,231 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว อายุไม่เกิน 10 ปี ภายในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท และบริษัทสามารถออกหุ้นกู้ระยะยาวทดแทนเพิ่มเติมได้อีกภายในวงเงินดังกล่าวข้างต้น หากบริษัทได้มีการซื้อหุ้นกู้ และ/หรือ ไถ่ถอนหุ้นกู้ ไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ และพิจารณายกเลิกหุ้นกู้ส่วนที่ยังไม่มีการออกจำหน่ายจำนวน 2,500 ล้านบาท
เนื่องจากบริษัทมีแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องจัดหาแหล่งเงินทุนอื่น นอกเหนือจากเงินทุนจากการดำเนินงาน เพื่อให้บริษัทมีทางเลือกในการระดมทุนที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำและสามารถระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ได้คล่องตัวมากขึ้น
นอกจากนั้น ยังมีมติให้เข้าซื้อหุ้น บริษัท ศรีบุรินทร์ การแพทย์ จำกัด สัดส่วน 58.53% คิดเป็นมูลค่า 447.60 ล้านบาท ซึ่งบริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ภายใต้ชื่อ "โรงพยาบาล เกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 120 เตียง ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย