นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย(KTC)เปิดเผยว่า นโยบายและทิศทางการทำธุรกิจในปี 54 บริษัทฯ จะทำการรีเฟรชแบรนด์ เพื่อการเป็นโอเพ่น แบรนด์(Open Brand) อย่างเต็มตัว โดยจะเปิดให้พันธมิตร สมาชิกและผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นกับเคทีซีในการพัฒนาแบรนด์ สร้างสรรค์แคมเปญการตลาดและโปรโมชั่นให้ตรงกับความต้องการของสมาชิกและผู้บริโภคมากที่สุด ตอกย้ำความเป็นผู้นำสถาบันการเงินที่ริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
ทั้งนี้ จะมีการปรับโลโก้และคุณค่าของแบรนด์ (Brand Value) ให้สอดรับกับแนวคิดแบรนด์ (Brand Tagline) ใหม่ “we write the stories" รวมทั้งใช้กลยุทธ์การตลาดแบบเฉพาะราย สร้างมูลค่าเพิ่มที่เป็นประโยชน์กลับสู่กลุ่มลูกค้าทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล และมุ่งขยายฐานสู่กลุ่มสมาชิกใหม่ๆ ควบคู่กับการดูแลคุณภาพหนี้อย่างรัดกุม
นายนิวัตต์ กล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจบัตรเครดิตในปี 53 ที่ผ่านมามีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง ผู้ประกอบการต่างจัดหาโปรโมชั่นเพื่อสร้างความแตกต่าง โดยส่วนใหญ่ใช้กลยุทธ์ด้านราคา ด้วยการใช้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าคู่แข่งในช่วงเวลาสั้นๆ เข้ามาจูงใจทำให้จำนวนบัตรเครดิตในประเทศไทยขยายตัวสูงขึ้นเป็น 14 ล้านบัตร หรือขยายตัว 5% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ขณะที่ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า มูลค่าลูกหนี้บัตรเครดิตและปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ออกโดยสถาบันการเงินในไทย ไม่รวมการเบิกเงินสดล่วงหน้า เท่ากับ 216,427 ล้านบาท และ 719,687 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโต 10% และ 16% ตามลำดับ โดยผู้ประกอบการสินเชื่อบุคคล สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐหรือธนาคารพาณิชย์ในประเทศเริ่มหันมาให้ความสนใจธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น ต่างพยายามสรรหากลยุทธ์การตลาดมาจูงใจผู้บริโภค ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นการเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าคู่แข่งขันเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม KTC ยังคงสามารถรักษาฐานรายได้รวม และมีจำนวนสมาชิกที่เติบโต จากการรักษาสภาพคล่องทางการเงินและดูแลคุณภาพลูกหนี้ให้สมดุล รวมทั้งการสรรหาแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่าย การใช้คะแนนสะสม และการตลาดแบบตัวต่อตัว (One-on-One) มาเป็นกลยุทธ์หลักทางการตลาด เพื่อสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังมีการปรับกลยุทธ์เจาะกลุ่มรายได้ให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจเพื่อควบคุมคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ รวมถึงการพัฒนาระบบไอทีในการให้บริการและงานพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง เช่น ศูนย์ให้บริการทางโทรศัพท์ ระบบลอยัลตี้ ระบบจัดการฐานข้อมูลอัจฉริยะ และระบบงานอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานที่มากขึ้น
สำหรับฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค.53 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 48,541 ล้านบาท ลดลงจาก 49,828 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเท่ากับ 44,775 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 44,007 ล้านบาท ณ สิ้นปี 52 เนื่องจากผู้บริโภคเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณในทิศทางที่ดีขึ้น
ปี 53 เคทีซีมีกำไรสุทธิ 224 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.87 บาท ฐานสมาชิกรวม 2.26 ล้านบัญชี ประกอบด้วย บัตรเครดิต 1,725,789 บัตร ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ 33,752 ล้านบาท / สินเชื่อบุคคล “เคทีซี แคช" เท่ากับ 529,983 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช สุทธิ 10,597 ล้านบาท และสินเชื่อเจ้าของกิจการ “เคทีซี มิลเลี่ยน" สุทธิ 119 ล้านบาท
บริษัทฯ มีรายได้รวม 12,180 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากรายได้ดอกเบี้ย (รวมรายได้ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) และรายได้ค่าธรรมเนียมมีจำนวน 7,985 ล้านบาท และ 3,078 ล้านบาท มีสัดส่วนคิดเป็น 66% และ 25% ของรายได้รวม สำหรับค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมภาษีเงินได้) เท่ากับ 11,752 ล้านบาท ลดลงจาก 12,999 ล้านบาท