นายนภันต์ แพร่ภัทร เลขานุการบริษัท บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ (THL) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 ธนาคารดอยซ์แบงก์ เอจี ได้ยื่นฟ้องบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ต่อศาล High Court of Justice, Queen's Bench Division, ศาลแพ่ง ที่ประเทศอังกฤษ ตามข้อหาว่า บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตามสัญญาเงินกู้ลงวันที่ 18 เมษายน 2551 เมื่อถึงกำหนดชำระหนี้และได้เรียกร้องให้ชำระหนี้แล้วเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2553
ทั้งนี้ ได้เรียกร้องเงินจำนวน 16,382,978.72 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 500,172,340.32 บาท ซึ่งเป็นเงินต้นคงค้างตามสัญญากู้เงิน อีกทั้งเงินดอกเบี้ยจำนวน 169,297.31 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 5,168,646.87 บาทที่เกิดขึ้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2553 จนถึงและรวมถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 และดอกเบี้ยจากเดือนกุมภาพันธ์ 2554 จนถึงวันที่ศาลมีคำพิพากษาภายใต้สัญญาเงินกู้ตามอัตราที่ต่างกัน ซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยต่อปีเท่ากับ 4.71 เปอร์เซนต์ โดยอัตราดอกเบี้ยต่อวันคิดเป็น 2,160.50 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 65,960.06 บาท
ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นของธนาคารดอยซ์แบงก์เนื่องจากเหตุผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาเงินกู้และที่บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ไม่สามารถชำระหนี้ได้เมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนดชำระหนี้และได้เรียกร้องให้ชำระหนี้แต่ยังไม่ระบุจำนวนเงิน
และเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ได้รับจดหมายจาก SNR Denton UK LLP ผู้ทำการแทนของดอยซ์แบงก์ เรียกร้องให้บริษัท ทุ่งคำ จำกัด เข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการที่ London Court of International Arbitration ระหว่าง ดอยซ์แบงก์ สาขากรุงลอนดอน และบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ในเรื่องของ "สัญญาส่งออก" ลงวันที่ 18 เมษายน 2551 ระหว่างบริษัท ทุ่งคำ จำกัด และ ดอยซ์แบงก์ สาขากรุงลอนดอน
ขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการหารือกับที่ปรึกษากฏหมายภายนอกของบริษัทฯ เกี่ยวข้องกับการดำเนินการในกรณีดังกล่าว และจะรายงานความคืบหน้าให้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯและผู้ลงทุนทราบความคืบหน้าโดยเร็วที่สุด