นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ. อาร์เอส (RS) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ที่ 3,100 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจทั้งหมดจะเดินหน้าไปพร้อมๆกัน ทั้งกลุ่ม Entertainment & Content Provider ซึ่งประกอบไปด้วย ธุรกิจเพลงและดิจิตอล, โชว์บิซ, ภาพยนตร์, กีฬา และกลุ่ม Media Service ประกอบด้วย ธุรกิจทีวี, วิทยุ, สื่อในโมเดิร์นเทรด ซึ่งทั้งหมดเป็นช่องทางสำคัญในการเอาคอนเทนต์ของอาร์เอสไปต่อยอด ภายใต้แนวคิดการ Synergy ธุรกิจทั้งหมดมาสนับสนุนซึ่งกันและกัน อันจะทำให้ธุรกิจทั้งหมดของกลุ่มอาร์เอสมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น พร้อมก้าวขึ้นแท่นเบอร์ 1 ด้านดิจิตอล เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เน็ตเวิร์ค
ส่วนผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 53 เป็นที่น่าพอใจ แต่บริษัทยังคงเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานในทุกหน่วยธุรกิจ และบริหารต้นทุนอย่างระมัดระวัง เห็นได้จากอัตราการทำกำไรปรับตัวดีขึ้นมาตามลำดับ โดยบริษัทเชื่อว่าด้วยการดำเนินงานที่บรรลุเป้าหมายในปีที่ผ่านมาประกอบกับสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งน่าจะทำให้บริษัทเดินหน้าธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน และจะเดินหน้าเรื่องการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผลการดำเนินงานของบริษัทปี 53 มีรายได้รวม 2,917.60 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 32% และมีกำไรสุทธิ 316.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 319% โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่เป็นรายได้ที่มาจากธุรกิจเพลงและดิจิตอล (Music & Digital) ธุรกิจกีฬาและธุรกิจสื่อ
โดยธุรกิจเพลงและดิจิตอลสามารถทำรายได้รวมไปกว่า 1,053.03 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 126.85 ล้านบาท หรือโตขึ้นประมาณ 14 % ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ ธุรกิจเพลงของอาร์เอสมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากช่องทางการจำหน่ายในรูปแบบ ดิจิตอลโปรดักส์ ภายใต้แคมเปญ “ซุปเปอร์เหมา *339 ต่อไปนี้ใครๆก็ไม่เหงา เพราะมีซุปเปอร์เหมาเป็นเพื่อน
ส่วนธุรกิจสปอร์ต (Sport) ก็ยังคงมาแรงเป็นอย่างมาก จากการบริหารสิทธิ์ทัวร์นาเม้นต์ระดับโลกอย่าง 2010 FIFA World Cup South Africa ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ทำให้สามารถรับรู้รายได้ไปกว่า 600 ล้านบาท ส่งผลให้ธุรกิจสปอร์ตของอาร์เอสเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดและก้าวไกลถึง 1,066 % เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน อีกทั้งฟุตบอลโลกครั้งต่อไปในปี 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน อาร์เอสก็ยังคงเป็นผู้บริหารสิทธิ์การถ่ายทอดสดในประเทศไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ธุรกิจหลักด้านมีเดียนั้นถือได้ว่าประสบความสำเร็จเช่นกัน สามารถทำรายได้ 663.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 23 % โดยธุรกิจสื่อโทรทัศน์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 21% สื่อวิทยุเพิ่มขึ้น 9% และสื่อโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้น 55% โดยธุรกิจมีเดียครอบคลุมทั้งธุรกิจโทรทัศน์ สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น จะเห็นได้จากรายการโทรทัศน์ของอาร์เอส ยังคงสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายและครองใจวัยรุ่นได้อย่างเหนียวแน่น
ธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมเข้ามาเสริมทัพเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจทีวีมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันอาร์เอสเปิดให้บริการ ทีวีดาวเทียม 2 ช่อง คือ สบายดี ทีวี และ YOU CHANNEL ซึ่งจากการจัดอันดับความนิยมปรากฏว่าทั้ง 2 ช่อง ติดอันดับ TOP 3 ของช่องรายการเคเบิ้ลทีวีและแซทเทิลไลท์ทีวีที่มีผู้ชมสูงสุด อีกทั้งในอนาคตอาร์เอสมีแผนที่จะเปิดให้บริการทีวีดาวเทียมเพิ่มอีก 1 ช่อง คือ ช่อง 8 อินฟินิตี้ ที่มาพร้อมกับแนวคิด ความสุขไม่รู้จบ โดยรูปแบบรายการจะนำเสนอคอนเทนต์ประเภท ละคร (First Run), ซีรี่ย์, ภาพยนตร์, เกมส์โชว์ และ สถานีเพลง หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า Entertainment Variety Channel ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงมีนาคมนี้
นอกจากนี้ที่ ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีการอนุมัติเรื่องการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น จำนวน 0.15 บาท/หุ้น ภายในวันที่ 29 เม.ย. 54 โดยมติในการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวยังจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554