PTTเผยปี 53 ยอดขายเพิ่ม 19.8%-ส่วนแบ่งกำไรบ.ย่อยเพิ่มส่งผลกำไรโต 39.5%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 1, 2011 10:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายในปี 2553 จำนวน 1,900,005 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 จำนวน 313,831 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.8 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นในทุกธุรกิจซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปริมาณและราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามความต้องราคาผลิตภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น (ราคาเฉลี่ยของน้ามันดิบดูไบเพิ่มขึ้นจาก 61.9 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในปี 2552 เป็น 78.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในปี 2553)

EBITDA จำนวน 167,376 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 จานวน 24,672 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.3 เป็นผลมาจากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาผลิตภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นในทุกธุรกิจ ยกเว้นธุรกิจถ่านหินที่มีผลการดาเนินงานลดลงเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานเพิ่มสูงขึ้นจาก Strip ratio และค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการการสร้าง Loading facility ชั่วคราวที่เหมือง Jembayan ปี 2553

ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 18,992 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 จำนวน 226 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.2 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์มีผลการดาเนินงานที่ดีขึ้น เป็นผลจาก Spread Margin ที่สูงขึ้นเกือบทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ MEG ที่มี Spread Margin สูงขึ้นมากจากอุปทานที่ลดลง เนื่องจากโรงผลิต MEG ของกลุ่ม SABIC ปิดซ่อมบารุงจนถึงกลางปี 2554

ในขณะที่บริษัทในกลุ่มธุรกิจการกลั่นและกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์มีผลการดำเนินงานที่ลดลง เนื่องมาจาก GRM ที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากในปี 2553 มีกาไรจากสต๊อกน้ามันและกำไรจาก hedging ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2552 รวมทั้งการปรับตัวลงของ Spread Margin ของผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์ในไตรมาส 2 และ 3 โดยเฉพาะพาราไซลีนที่ปรับตัวลงจากอุปทานของผลิตภัณฑ์ที่มีมากเกินความต้องการ ในขณะที่ปี 2552 ตลาดพาราไซลีนประสบปัญหาอุปทานตึงตัวจากการขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต

อย่างไรก็ตาม ราคาพาราไซลีนได้ปรับตัวสูงขึ้นในปลายปี 2553 จากอุปทานที่กลับมาตึงตัวอีกครั้ง เนื่องจากโรง Urumqi PC ของจีนเลื่อนการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ไปเป็นกลางปี 2554 รวมทั้งโรงงานของ Kuwait และ Oman ประสบปัญหาทางเทคนิคทาให้ต้องหยุดผลิตฉุกเฉิน

นอกจากนี้ ในปี 2553 ปตท. และบริษัทย่อยมีกาไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จานวน 11,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 จำนวน 7,172 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 153.2 รวมทั้งในปี 2552 บมจ.ปตท สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือปตท.สผ. มีการบันทึกค่าความเสียหายจากอุบัติเหตุในแหล่งมอนทารา (สุทธิจากค่าสินไหมทดแทน) จำนวน 9,086 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2553 ปตท.สผ. มีรายได้จากค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมจานวน 1,369 ล้านบาท

ส่งผลให้ในปี 2553 ปตท. และบริษัทย่อยมีกาไรสุทธิ 83,088 ล้านบาท (หรือคิดเป็น 29.26 บาทต่อหุ้น) เพิ่มขึ้น 23,540 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.5 จากจำนวน 59,548 ล้านบาทในปี 2552 (หรือคิดเป็น 21.06 บาทต่อหุ้น)


แท็ก (PTT)   ปตท.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ