โบรกฯหนุน"ซื้อ"CPALL กำไรโตตามสาขาเพิ่ม-อาหารสำเร็จรูปมาร์จิ้นดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 1, 2011 15:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"บมจ.ซีพี ออลล์(CPALL)จากผลการดำเนินงานในปี 53 สามารถทำกำไรเติบโตต่อเนื่อง จากการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นตามแผนงาน และการขายสินค้าอาหารสำเร็จรูปที่มีมาร์จิ้นดี ขณะที่ร้านค้าสะดวกซื้อ 7-11 ถือเป็นผู้นำตลาดที่มีสาขาครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และมีระบบบริหารจัดการต้นทุนและการกระจายสินค้าที่ดี เป็นธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบแม้เศรษฐกิจชะลอตัว

ทั้งนี้ คาดการณ์ปี 54 บริษัทจะมีกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องที่ 12-15% และบริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 500 แห่ง รวมถึงการเน้นธุรกิจอาหารที่ทำมาร์จิ้นได้ดี ยังเป็นจุดเด่นของธุรกิจ

          โบรกเกอร์          คำแนะนำ             ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.กิมเอ็ง            ซื้อ                      49.00
          บล.ทรีนิตี้          Buy on Weakness            40.00
          บล.กรุงศรีอยุธยา       ซื้อ                      46.58
          บล.ฟิลลิป             ซื้อ                      47.50
          บล.ยูไนเต็ด           ซื้อ                      49.25
          บล.ทิสโก้             ซื้อ                      46.00
          บล.ดีบีเอสฯ           ซื้อ                      48.50

นางสาวสุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อ"CPALL โดยกำไรสุทธิปี 54 ยังเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าอยู่ที่ 15% หรือประมาณ 7,637 ล้านบาท จากผลประกอบการปี 53 ออกมาดีกว่าที่คาด ขณะที่ยอดขายสาขาเดิมคาดว่าเติบโต 5% และมีการเปิดสาขาใหม่ 500 สาขา

ทั้งนี้ จุดเด่นของบริษัทคือการขายสินค้าประเภทอาหารที่ช่วยเพิ่มมาร์จิ้นได้ ประกอบกับ ร้าน 7-11 เป็นผู้นำตลาดที่มีสาขามาก ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และบริษัทยังมีระบบการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี รวมถึงการบริหารสาขา และการกระจายสินค้า

“การดำเนินธุรกิจของบริษัทไม่ได้แตกต่างไปจากปีก่อน แต่ธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ และการขายอาหาร แทบไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว และธุรกิจอาหารเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นที่ดี"นางสาวสุทธาทิพย์ กล่าว

นายวรพล วิรุฬห์ศรี นักวิเคราะห์ บล.ทรีนิตี้ มองว่า ผลกำไรไตรมาส 4/53 ดีกว่าที่คาด มีกำไรสุทธิ 1,548 ล้านบาท โดยยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ มีการเปิดสาขาเพิ่ม 130 สาขา ทำให้จำนวนสาขารวมเพิ่มขึ้นเป็น 5,790 แห่ง

และโดยรวมทั้งปี 53 CPALL ทำกำไรได้ 6,663 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยมาจากการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มขึ้น 20% และ Gross margin ที่ปรับตัวดีขึ้นจาก 26.4% เป็น 26.8%

ส่วนปี 54 บริษัทยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากการวางแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่องอีก 500 และตั้งเป้า SSS (ยอดขายจากสาขาเก่า)เติบโตไม่ต่ำกว่า 5% นอกจากนี้ บริษัทยังพยายามเพิ่มความสามารถในการทำกำไรขึ้นจากการเพิ่มสินค้าประเภทอาหารที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงให้มากขึ้น พร้อมมุ่งเน้นการเปิดสาขาที่ขายสินค้าอาหารแช่เย็น ให้มากขึ้น

และในปีนี้จะมีการเปิดศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งในภาคอีสาน และปีหน้าอีกหนึ่งแห่งในภาคเหนือ ช่วยส่งเสริมศักยภาพในการเติบโตของยอดขายและประสิทธิภาพในการจัดการจัดส่งสินค้าให้มากขึ้น จึงคาดว่าปีนี้บริษัทจะมีกำไรเติบโต 12% และปี 55 เติบโต 11%

ขณะที่บล.กรุงศรีอยุธยา มองว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 54 คาดว่า CPALL มีอัตรากำไรขั้นต้น 27% และประมาณการกำไรสุทธิ 7,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคงสมมติฐานยอดขายขยายตัว 15.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายของสาขาเดิมและการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้น 450 แห่ง

บริษัทยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากการขายสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพ และแผนการขยายสาขา 450-500 แห่ง/ปี โดย ROE อยู่ในทิศทางขาขึ้นจาก 36.1% ในปี 53 เป็น 40.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ