บมจ.จีสตีล (GSTEEL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2554 ของบริษัท เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554 ได้มีมติอนุมัติพิจารณารับรองเหตุผล ความจำเป็นและหลักการในการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยออกหุ้นสามัญสามัญเพิ่มทุนและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 11,920,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และเสนอขายให้แก่ Arcelor Mittal Netherlands B.V. (AM) ในราคาหุ้นละไม่ต่ำกว่า 0.63 บาทรวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 7,509,600,000 บาท
รวมทั้งขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือหรือฟื้นฟูกิจการ ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ อจ 8/2541 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการ
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 2,478,304,802 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียน 18,960,000,000 บาท เป็น 16,481,695,198 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ
จากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจากจำนวน 16,481,695,198 บาท เป็น 29,798,589,773 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 13,316,894,575 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ Arcelor Mittal Netherlands B.V. จำนวนไม่เกิน 11,920,000,000หุ้น สัดส่วนถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% เสนอขายในราคาไม่ต่ำกว่า 0.63 บาทต่อหุ้น
และจัดสรรให้แก่เจ้าหนี้ของบริษัทฯ ได้แก่ Kwang Sogo จำนวน 850,032,300 หุ้น ตามโครงการแปลงหนี้เป็นทุนตามโครงการแปลงหนี้เป็นทุน จากเดิมถือ 0.91% เป็นถือสัดส่วน 3.36% ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท และ Pacific Harbor จำนวน546,862,275 หุ้น ตามโครงการแปลงหนี้เป็นทุนตามโครงการแปลงหนี้เป็นทุน สัดส่วน 1.84% ราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท
ทั้งนี้ ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มให้ AM ระหว่างวันที่ 7-28 ก.พ.54 โดยก่อนการเข้าทำธุรกรรมของ AM หนี้ที่สำคัญของบริษัทฯ และ บมจ.จี เจ สตีล(GJS) บริษัทที่ถือหุ้นโดย GSTEEL และบริษัทย่อยจำนวนร้อยละ 43.90 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด จะต้องลดลงอย่างมีนัยสำคัญและฝ่ายบริหารของบริษัทจะต้องดำเนินการตามโครงการแปลงหนี้เป็นทุนให้สำเร็จเสร็จสิ้น
ดังนั้น จึงต้องมีการดำเนินการตามโครงการแปลงหนี้เป็นทุน กล่าวคือ การแปลงหนี้เป็นทุนของบริษัทฯ สำหรับหนี้ค้างชำระกับ Kwang Sogo Investment Company Limited และบริษัท Pacific Harbor Advisors Pte. Ltd. และ การแปลงหนี้เป็นทุนของ GJS สำหรับหนี้ค้างชำระกับบริษัทฯ และ Oriental Access Co., Ltd (บริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่คิดเป็นร้อยละ 90 ของทุนจดทะเบียนของ OA) เนื่องจากเงื่อนไขบังคับก่อนดังกล่าว บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องทำการแปลงหนี้เป็นทุนสำหรับหนี้ที่ค้างชำระกับเจ้าหนี้ของบริษัทฯ ราย บริษัท Kwang Sogo และ Pacific Harbor ดังนั้น บริษัทฯ จะต้องออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่เจ้าหนี้ Kwang Sogo และ Pacific Harbor ตามโครงการแปลงหนี้เป็นทุน นอกจากนี้ GJS ยังมีหน้าที่ในการแปลงหนี้เป็นทุนสำหรับหนี้ค้างชำระกับบริษัทฯ และ OA ทำให้ GJS จะต้องออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บริษัทฯ และ OA ตามโครงการแปลงหนี้เป็นทุนดังกล่าว
บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ที่จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อลดภาระหนี้ของบริษัทฯ และ GJS อย่างมีนัยสำคัญตามที่ปรากฏในงบการเงินของบริษัทฯ ณ วันปิดงบการเงิน (Statement Closing date)
โดย AM ได้เสนอความช่วยเหลือให้แก่บริษัทโดยการช่วยเหลือดังกล่าวอยู่ในรูปแบบของการเพิ่มเงินลงทุนให้แก่บริษัทฯ และผ่านมายัง GJS เงินเพิ่มทุนดังกล่าวเป็นการเพิ่มทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทฯโดยตรงและให้ความช่วยเหลือทางอ้อมให้แก่ GJS และ เพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูทั้งสองบริษัทซึ่งเงินเพิ่มทุนที่ได้จาก AM โดยผ่านทางบริษัทฯ นั้น บริษัทฯคาดว่าจะสามารถเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนของกิจการและสามารถรักษาระดับเงินลงทุนเกี่ยวกับกำลังการผลิตเพื่อรองรับการขยายงานในอนาคต และให้ความช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ ได้
นอกจากนี้บริษัทฯ จะได้มีสภาพคล่องและความแข็งแกร่งทางการเงินเพิ่มขึ้น และส่งให้ผลให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นและมีศักยภาพในการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอันสนะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรและผลประกอบการที่จะดีขึ้นเป็นลำดับซึ่งจ่ะสงผลดีต่อความมั่งคั่งของบริษัทฯ และผุ้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในระยะยาว
ขณะที่ GJS แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2554 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554 ได้มีมติอนุมัติหลักการในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกันอื่นซึ่งเป็นการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในราคาหุ้นละ 0.24 บาท จำนวน 21,854,166,667 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 35.39 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน
จากการตกลงเข้าทำรายการกับ AM ซึ่งได้มีการกำหนดให้GSTEEL และ OA มีการเพิ่มทุนใน GJS โดย GSTEEL และ OA แปลงหนี้สินเป็นทุน จัดได้ว่าเป็นการเพิ่มทุนใน GJS โดยการแปลงหนี้สินจำนวน (ณ ปัจจุบัน) 1,645 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 6,854,166,667 หุ้น
และ GSTEEL ทำการเพิ่มทุนใน GJS ด้วยเงินเพิ่มทุนสำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เป็นหุ้นสามัญจำนวน 15,000,000,000 หุ้น การออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จากการแปลงหนี้สินเป็นทุนและการเพิ่มทุนด้วยเงินสด เป็นการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ราคาหุ้นละ 0.24 บาทต่อหุ้นให้แก่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันโดยราคาหุ้นดังกล่าวเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดเฉลี่ย 15 วันทำการ
การเพิ่มทุนจำนวนทั้งสิ้น 21,854,166,667 หุ้น เป็นเหตุให้ GSTEELและ OA มีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 43.90 เป็นร้อยละ 63.75 ทั้งนี้ มูลค่ารวมของการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันในครั้งนี้เท่ากับ 13,118.78 ล้านบาท โดยคำนวณจากราคาหุ้นที่ 0.60 บาทต่อหุ้น (มูลค่าทางบัญชี ณ วันที่ 30 กันยายน 2553)