บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิประจำปี 2553 และ กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 เป็นหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 480 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ในอัตรา 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล รวมมูลค่าหุ้นทั้งสิ้นไม่เกิน 480 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.50 บาท ต่อหุ้น และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0556 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 53.33 ล้านบาท
พร้อมทั้ง อนุมัติจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมเป็นใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญโดยไม่คิดมูลค่า ในอัตรา 4 หุ้น เดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ 1 หุ้น เป็นจำนวนรวมไม่เกิน 240 ล้านหน่วย โดยใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญดังกล่าวมีอายุ 2 ปี และกำหนดราคาการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิเท่ากับ 7.50 บาทต่อหุ้น และให้ใช้สิทธิได้ทุกๆรอบ 6 เดือน นับจากวันที่กำหนดจ่ายปันผล
ทั้งนี้ ปันผลที่เป็นใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ สามารถนำมาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2554 , 18 พฤษภาคม 2555 , 16 พฤศจิกายน 2555 และวันที่ 17 พฤษภาคม 2556 ตามลำดับ ซึ่งบริษัทฯจะนำใบสำคัญแสดงสิทธินี้ไปขอจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อไป
รวมการจ่ายปันผลทั้งในรูปแบบของหุ้นปันผล, เงินสด และใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ เท่ากับอัตราหุ้นละ 0.5556 บาท คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 533.33 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลทั้งในรูปแบบของหุ้นปันผล, เงินสด และใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ ในวันที่ 24 มีนาคม 2554 และรวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 25 มีนาคม 2554 และกำหนดจ่ายเงินปันผล (หุ้นปันผล , เงินสดปันผล และใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ) ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2554
นอกจากนั้น ยังมีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่ออนุมัติกรอบในการจัดโครงการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯให้แก่กรรมการและพนักงานทุกคน (GLOBAL_ESOP1) เป็นจำนวนรวมไม่เกิน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท โครงการนี้มีอายุ 5 ปี พนักงานที่ซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯจะสามารถขายหรือโอนเปลี่ยนมือได้เมื่อถือไว้ครบ 1 ปี และขายได้ปี ละหนึ่งครั้ง ครั้งละไม่เกินร้อยละ 25 โดยมอบให้คณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ เป็นผู้ไปดำเนินการในรายละเอียดต่อไป
และ อนุมัติเพิ่มทุนบริษัทฯ จากเดิมบริษัทฯมีทุนจดทะเบียนอยู่ 960 ล้านบาท เพิ่มเป็น 1,720 ล้านบาท โดยออกเป็นหุ้นสามัญจำนวนรวม 760 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท เพื่อไว้รองรับการจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญ 480 ล้านหุ้น ,รองรับการจ่ายปันผลเป็นใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญจำนวนรวม 240 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญจำนวน 40 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่พนักงานตามโครงการ GLOBAL-ESOP1