(เพิ่มเติม) L&E คาดรายได้ Q1/54 ดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ตามการเติบโตภาคอสังหาฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 9, 2011 16:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 1/54 มีโอกาสออกมาในทิศทางที่ดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคำสั่งซื้อของลูกค้าทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั้งศูนย์การค้า ร้านค้าต่างๆ โรงแรมและอาคารพาณิชย์อื่นๆ ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างในอาคารดังกล่าวเติบโตในทิศทางเดียวกันอีกด้วย

บริษัทยังมีงานในมือ(Backlog) อยู่ที่ 600 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดในปีนี้ นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์ LED ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่าง ต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ในขณะที่ตลาดส่งออกเริ่มมีการเติบโตชัดเจนยิ่งขึ้น

"ภาพรวมของ L&E ในไตรมาส 1 ปีนี้ มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะภาพรวมของทุกอย่างดีขึ้น สินค้าต่างๆ ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมีออเดอร์ใหม่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ยอดขายเพิ่มขึ้น ในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายหลัก ทั้งการจัดจำหน่ายผ่านโครงการ, การขายส่ง ขายปลีกและการส่งออก ในขณะที่สินค้าใหม่ LED ก็ได้รับการตอบรับที่ดี และประการสำคัญสินค้าประเภทนี้จะมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่สูงกว่าสินค้ากลุ่มอื่น"นายปกรณ์ กล่าว

เขากล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทฯ เตรียมขยายการส่งออกสินค้าโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างเข้าไปยังตลาดอาเซียนมากขึ้น เพื่อผลักดันให้สัดส่วนส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 8% จากปี 53 ที่ทำได้ในสัดส่วน 6% เพราะปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาจำหน่ายสินค้า LED ให้กับลูกค้ารายใหม่ในเวียดนาม มูลค่า 30 ล้านบาท โดยคาดว่าภายในไตรมาส 3/54 จะทยอยรับรู้รายได้จากการจำหน่ายสินค้าดังกล่าวได้

นอกจากนี้ จะมุ่งรักษาความเป็นผู้นำในตลาดงานโครงการ ด้วยการควบคุมต้นทุนการผลิตให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้อย่างคล่องตัว เพิ่มจำนวนสินค้าที่มีคุณภาพให้หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยี LED ตลอดจนขยายตลาดค้าส่งและค้าปลีกให้กว้างขวางขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากกว่าเดิม และเพิ่มสัดส่วนการส่งออกให้สูงขึ้น หลังจากที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าในต่างประเทศเริ่มตอบรับสินค้าและบริการของบริษัทฯ เป็นอย่างดี ทำให้สามารถได้งานประมูลเข้ามาแล้วหลายโครงการ

ทั้งนี้ เชื่อว่าในปี 54 บริษัทฯ จะสร้างรายได้ให้เติบโต ที่อัตรา 10-15% จากปี 53 ที่ทำได้ 1,623 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) จะพยายามรักษาให้ใกล้เคียงกับปี 53 ที่ระดับ 26-27% โดยบริษัทฯ จะพยายามลดต้นทุนในการดำเนินงานและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้

นายปกรณ์ คาดว่า บริษัทจะนำวอร์แรนท์เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/54 ถึงต้นไตรมาส 3/54 จากจำนวนวอร์แรนท์ที่ออกทั้งหมด 15.278 ล้านหน่วย เชื่อว่าจะได้เม็ดเงิน 113 ล้านบาทจากที่มีผู้ใช้สิทธิทั้งหมด โดยเงินที่ระดมทุนได้จะนำไปใช้สร้างโรงงานใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาที่ดินเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 60-70% หรือคิดเป็น 380 ล้านบาท ในปีก่อน ซึ่งยังสามารถขยายได้อีก และในอนาคตจะมีการลงทุนจัดซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติมอีก

"จากนี้ไปเงินที่ได้จากวอร์แรนท์เพียงพอใน 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งตอนนี้บริษัทมีฐานการเงินที่ดี แต่การที่เราสร้างโรงงาน เพราะเราเห็นปริมาณออร์เดอร์ที่เพิ่มเข้ามาคงจะไม่พอ" นายปกรณ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ