นายวิโรจน์ บุญศิริรุ่งเรือง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น(MATCH)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า 54 บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ในปี 54 ไว้ประมาณ 700 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 623 ล้านบาท และกำไรน่าจะเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 28 ล้านบาท
ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 1/54 รายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และยังคงทำกำไรได้ดีต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังการเปิดตัวแมกกาซีนใหม่"LOOKER"เมื่อปลายปี 53 ซึ่งเป็นนิตยสารเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชาย พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีกว่าหนังสือทั่วไป เพียงเปิดตัวเดือนเดียวก็มีเอเจนซี่เข้าซื้อโฆษณาค่อนข้างดี และเป็นการขยายตลาดแมกกาซีนของบริษัท จากเดิมที่มี "CHEEZE" ที่เน้นเจาะกลุ่มวัยรุ่นหญิง
นอกจากนี้ บริษัทยังรายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณาจากประเทศญี่ปุ่น 2 เรื่อง ซึ่งมีรายได้ประมาณ 15 ล้านบาท และยังมีดีลงานอีก 2 เรื่อง แต่ได้ชะลอออกไปก่อนหลังญี่ปุ่นประสบปัญหาภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิ
นายวิโรจน์ กล่าวว่า รายได้หลักของบริษัทในปีนี้ยังมาจากธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์คิดเป็น 30% ของรายได้รวม โดยคาดว่าปีนี้จะทำรายได้ 220 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 10% จากที่มีรายได้ 190 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มธุรกิจยังมีโอกาสเติบโตได้ดี และมีโอกาสขยายตลาดในต่างประเทศมากขึ้น ทั้งเกาหลี เวียดนาม อินเดีย ยุโรป ญี่ปุ่น และประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกันประเทศไทยก็เป็นสถานที่ที่ต่างประเทศให้ความสนใจใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน
สำหรับรายได้ส่วนอื่นๆ มาจากรายได้โฆษณา ประมาณ 20-25% รายการทีวี 20% งานอีเวนต์ 10% แมกกาซีน 10% ขณะที่รายได้จากธุรกิจภาพยนต์โฆษณามีแนวโน้มปรับลดลง เนื่องจากการผลิตเปลี่ยนเป็นระบบดิจิตอล จากเดิมที่ใช้ระบบฟิล์ม ทำให้จำนวนเรื่องการถ่ายทำโฆษณาด้วยฟิล์มไม่เติบโตมากนัก
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ MATCH กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นธุรกิจพัฒนาที่ดิน เพื่อลงทุนสร้างศูนย์แสดงสินค้า(HALL)ขนาด 3,000-4,000 ที่นั่ง เพื่อเป็นพื้นที่แสดงสินค้า จัดคอนเสิร์ต หรืออื่นๆ มีเป้าหมายเพื่อให้บริษัทมีรายได้ที่แน่นอนมากขึ้น หลังจากที่บริษัทมีความเข้มแข็งแล้วและมีศักยภาพในการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น คาดว่าน่าจะมีข้อสรุปภายในปีนี้
"เราคิดว่าจะทำอย่างไรให้บริษัทมีรายได้ประจำ จึงมีแผนที่จะสร้างฮอลล์ คล้ายที่พารากอนฮอลล์ หรือเมืองทอง แต่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ตอนนี้เรากำลังพูดคุยกับพันธมิตรอยู่ เขามีพื้นที่อยู่แล้วอยู่ในเมือง ตอนนี้ก็อยู่ที่เงื่อนไขและเม็ดเงินลงทุน ซึ่งการระดมเงินไม่น่ามีปัญหา เรามีที่ปรึกษา และมีการพูดคุยกับบริษัทแม่ (ช่อง7) ก็ไม่มีปัญหา พร้อมที่จะเราทุนอยู่แล้ว" นายวิโรจน์ กล่าว
บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจผลิตรายการทีวีอีก 2 รายการ โดยเป็นการต่อยอดนิตยสาร CHEEZE โดยอยู่ระหว่างการนำเสนอช่อง 7 ขอเวลาในช่วงหลังเที่ยงคืน จัดรายการรูปแบบนำเสนอแฟชั่น วิธีการทำงานแฟชั่น เน้นผู้ชมนอนดึก และเป็นช่วงที่มีค่าเช่าเวลาไม่สูงมาก ส่วนอีกรายการจะเป็นรายการเชิงสังคมกึ่งเกมส์โชว์ คล้ายรายการปลดหนี้ โดยทั้งสองรายการ มีการนำเสนอแผนและขอเวลาจากช่อง 7 แล้ว
และในปีนี้ บริษัทมีแผนลงทุนเพิ่ม 40-50 ล้านบาท ในการจัดซื้ออุปกรณ์ในการถ่ายทำภาพยนตร์เพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้องการของตลาด และเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า