KTB เผยกำไร Q1/54 พุ่ง 78.56% จาก Q1/53 รายได้ดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียมโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 21, 2011 13:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกรุงไทย(KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2554 เท่ากับ 5,489 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,415 ล้านบาท (ร้อยละ 78.56) จากไตรมาส 1/2553 โดยธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 11,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,470 ล้านบาท (ร้อยละ 27.77) จากไตรมาส 1/2553 อัตราผลตอบแทน (NIM) อัตราผลตอบแทนสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เท่ากับร้อยละ 2.47 เพิ่มขึ้นจาก ไตรมาส 1/2553 ซึ่ง เท่ากับ ร้อยละ 2.29

ธนาคารมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิในไตรมาส 1/2554 เท่ากับ 2,757 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 394 ล้านบาท (ร้อยละ 16.67) จาก ไตรมาส 1/2553 ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานรวมในไตรมาส 1/2554 เท่ากับ 2,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 513 ล้านบาท (ร้อยละ 24.99) จาก ไตรมาส 1/2553

ธนาคารมีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ในไตรมาส 1/2554 เท่ากับ 7,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7 ล้านบาท (ร้อยละ 0.09) จาก ไตรมาส 1/2553 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ในไตรมาส 1/2554 เท่ากับร้อยละ 49.32 ลดลงจากร้อยละ 61.58 ในไตรมาส 1/2553

หนี้สูญ หนี้สงสัยจะสูญ และขาดทุนจากการด้อยค่าในไตรมาส 1/2554 ธนาคารได้กันสำรองหนี้สูญ หนี้สงสัยจะสูญ และขาดทุนจากการด้อยค่าจำนวน 1,514 ล้านบาท ลดลง 1 ล้านบาท (ร้อยละ 0.07) จากไตรมาส 1/2553 โดยใน ไตรมาส 1/2554 ธนาคารได้กันสำรองหนี้สูญ และหนี้สงสัยจะสูญ ตามปกติ จำนวน 500 ล้านบาท ต่อเดือน

ณ 31 มีนาคม 2554 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ เท่ากับ 1,301,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51,619 ล้านบาท (ร้อยละ 4.13) จาก ณ 31 ธันวาคม 2553

ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) ณ 31 มีนาคม 2554 จำนวน 67,875 ล้านบาท ซึ่งลดลง จำนวน 8,382 ล้านบาท (ร้อยละ 10.99) จาก ณ 31 ธันวาคม 2553 โดยสัดส่วน NPLs (gross) ลดลงจากร้อยละ 5.30 ณ 31 ธันวาคม 2553 เป็นร้อยละ 4.18 ณ 31 มีนาคม 2554 และสัดส่วน NPLs (net) ลดลงจากร้อยละ 3.09 ณ 31 ธันวาคม 2553 เป็นร้อยละ 2.69 ณ 31 มีนาคม 2554

ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ 31 มีนาคม 2554 เท่ากับ 1,295,485 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47,434 ล้านบาท (ร้อยละ 3.80) จาก ณ 31 ธันวาคม 2553

ณ 31 มีนาคม 2554 ธนาคารมีเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 107,612 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.64 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำร้อยละ 4.25 ที่กำหนดโดยธปท. ส่วนเงินกองทุนรวมเท่ากับ 174,310 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.00 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง ตามหลักเกณฑ์ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งนำแนวทาง Basel II มาบังคับใช้ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำร้อยละ 8.50 ที่กำหนดโดย ธปท. เช่นกัน

สำหรับไตรมาสนี้ธนาคารได้มีการดำเนินการเรื่องผลประโยชน์พนักงานโดยผลกระทบจากอดีตได้ปรับปรุงลดกำไรสะสมของธนาคารแล้วและธนาคารเชื่อว่าเงินกองทุนในระดับนี้ ทำให้ธนาคารมีความแข็งแกร่ง และสามารถขยายธุรกิจได้ตามแผน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ