นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ. เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน(BWG)แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 3/54 เมื่อวันที่ 25 เมษายน ได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากทุนจดทะเบียนเดิม 320 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 800 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 480 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท
และได้มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 480 ล้านหุ้น แบ่งขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 320 ล้านหุ้น ตัดสัดส่วนการถือหุ้น 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาขายหุ้นละ 1.10 บาท และ จัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ ครั้งที่ 1 (BWG-W1) ที่เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ที่ออกและเสนอขายในครั้งนี้ 160 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 1 ให้แก่ ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ที่ได้จองซื้อและได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน ซึ่งบริษัทฯจะออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นในครั้งนี้ ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ กำหนดราคาใช้สิทธิ 1.20 บาท อายุ 3 ปี
บริษัทกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/54 เพื่อขออนุมัติการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ในวันที่ 2 มิถุนายน 54 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 10 พฤษภาคม 54 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 11 พฤษภาคม 54
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่มเพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และเพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ในการลงทุนในโครงการก่อสร้างหลุมฝังกลบเพิ่มเติม ระบบกำกับดูแลและความคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ระบบขนส่งที่ใช้ในการบริการและเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมในปี 54 มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมของประเทศ จึงทำให้ปริมาณกากอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลโรงงานอุตสาหกรรมให้บำบัดกากอุตสาหกรรมตามมาตรฐานของกรมโรงงานอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีกากอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเข้าบำบัดตามกระบวนการที่ถูกต้องเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือว่าส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัทฯ โดยตรง เนื่องจากปัจจุบัน บริษัท ถือเป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่มีกระบวนการรองรับการบำบัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ทั้งฝังกลบ นำกลับมาใช้ใหม่ และการเผา โดยทุกกระบวนการได้มาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้น การเตรียมความพร้อมทั้งด้านเงินหมุนเวียน และกระบวนการต่างๆ ไว้รองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างทันท่วงทีจะทำให้ การขยายงานเป็นไปอย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การเติบโตของธุรกิจบัดบัดกากอุตสหกรรมจะเห็นได้อย่างชัดเจน จากการเติบโตของผลประกอบการในไตรมาสที่ 1/54 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างโดดเด่น ตามทิศทางการเติบโตของธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมของประเทศ สนับสนุนให้ปริมาณกากอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าการเติบโตดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปในทิศทางเดียวกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งจะสะท้อนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตไปในทิศทางเดียวกันด้วย