นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2554 บริษัทฯ และบริษัท อาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัด (บริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ผ่านบริษัท อาร์เอช อินเตอร์ เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท อาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (มอริเชียส) คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตามลำดับ) ได้ลงนามข้อตกลงการเข้าซื้อหุ้นเพื่อการเข้าซื้อหุ้นในกิจการของกองทุน Transfield Services Infrastructure Fund (TSIF) ในประเทศออสเตรเลีย
บริษัท RHIS จะเข้าซื้อหุ้นของ TSIF จำนวน 246,396,090 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.85 เหรียญออสเตรเลีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 56.16 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 209.44 ล้านเหรียญออสเตรเลียหรือประมาณ 6,702 ล้านบาท (คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญออสเตรเลีย เท่ากับ 32 บาท) และคาดว่าจะชำระเงินค่าหุ้นให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2/2554 ภายหลังจากบรรลุข้อตกลงต่างๆแล้ว
ทั้งนี้ บริษัท RHIS จะเข้าซื้อหุ้นของ TSIF โดยในเบื้องต้นจะเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 56.16 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และจะพิจารณาซื้อหุ้นเพิ่มหากราคาซื้อขายหุ้นเป็นไปตามข้อตกลงและสามารถรักษาเงื่อนไขต่างๆ ตามที่กำหนด ทั้งนี้การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวจะดำเนินการภายหลังจากผ่านกระบวนการซื้อกิจการ (Scheme of Arrangement) ตามกฎหมายของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ TSIF และคำสั่งของศาลออสเตรเลีย
TSIF เป็นกองทุนซึ่งดำเนินธุรกิจด้านพลังงานและ สาธารณูปโภคในประเทศออสเตรเลีย มีสินทรัพย์ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าและโรงกรองน้ำ ซึ่งมีที่ตั้งกระจายอยู่ในรัฐต่างๆ ทั่วประเทศออสเตรเลีย เชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงไฟฟ้ามีความหลากหลาย ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และ พลังงานลม มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 1,126 เมกะวัตต์ ส่วนโรงกรองน้ำมีกำลังการผลิตน้ำรวมเฉลี่ยประมาณ 210,000 ลิตรต่อวัน สินทรัพย์ประเภทโรงไฟฟ้าของ TSIF ร้อยละ 90 มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าคงเหลือเฉลี่ยเป็นเวลาประมาณ 11 ปี
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 TSIF มีทุนจดทะเบียนจำนวน 149,987,000 เหรียญออสเตรเลีย และทุนที่ออกและชำระแล้ว 149,987,000 เหรียญออสเตรเลีย ประกอบด้วยหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด 438,756,421 หุ้น
ทั้งนี้ การเข้าซื้อครั้งนี้เพื่อเป็นการขยายธุรกิจในต่างประเทศตามแผนการลงทุนของบริษัทฯ TSIF เป็นกองทุนที่ดำเนินธุรกิจในด้านพลังงานและสาธารณูปโภคซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ กิจการส่วนใหญ่มีสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวซึ่งบริษัทฯ จะสามารถประมาณการรายได้และรับรู้รายได้ตามสัดส่วนการลงทุนได้ทันที ตลอดจนยังมีโอกาสเพิ่มมูลค่าจากการขยายกิจการในอนาคต