บมจ. ปตท. เคมิคอล(PTTCH)เปิดเผยว่า ไตรมาส 1/2554 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 6,178 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 95 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และบริษัทฯ มีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 4.08 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 93 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกำไรสุทธิที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ
อนึ่ง ตามที่สภาวิชาชีพบัญชีได้ประกาศให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีปรับปรุงใหม่ (TFRS) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป ซึ่งอ้างอิงจากมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (IFRS) นั้น บริษัทฯ ได้ปรับใช้มาตรฐานดังกล่าวในไตรมาส 1/2554 และได้ทำการปรับย้อนหลังงบการเงิน (Restated) ที่นำมาเปรียบเทียบ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน TFRS
จากการปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีที่ปรับปรุงใหม่นั้น ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 1/2553 ปรับตัวลดลง 7 ล้านบาท จากเดิม 3,172 ล้านบาท เป็น 3,165 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานจำนวน 10 ล้านบาท และการลดลงของภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 3 ล้านบาท และกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2553 ปรับตัวลดลงจำนวน 11 ล้านบาท จากเดิม 2,771 ล้านบาท เป็น 2,760 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานจำนวน 15 ล้านบาท และการลดลงของภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 4 ล้านบาท
ในไตรมาส 1/2554 ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย (Dubai) เท่ากับ 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาเรลล์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 76 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาเรลล์ จากปริมาณความต้องการใช้น้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก ประกอบกับปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบส่วนหนึ่งหายไปจากตลาด ผลจากการที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น ทำให้ราคา Naphtha(MOPS) ในไตรมาสนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 903 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน จาก 712 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันในไตรมาส 1/2553 หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 27
การปรับตัวเพิ่มขึ้นของแนฟทาทำให้ราคาผลิตภัณฑ์ HDPE (SEA) ปรับตัวสูงขึ้นตาม แต่ปรับตัวสูงขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นของแนฟทา โดยไตรมาส 1/2554 ราคา HDPE (SEA) เท่ากับ 1,372 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จาก 1,319 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันในไตรมาส 1/2553 ส่งผลให้ส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์ HDPE (SEA) และวัตถุดิบแนฟทาในไตรมาสนี้เท่ากับ 469 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ปรับตัวลดลงจาก 607 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน หรือลดลงร้อยละ 23 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนใน