ITV เผย มี.ค.54 ส่วนผถห.ติดลบ 3.58 พันลบ. ตั้งสำรองหากแพ้คดีกว่าแสนลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 12, 2011 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด หวังเชิดชูวงศ์ ประธานกรรมการ บมจ.ไอทีวี (ITV) เปิดเผยความคืบหน้าแนวทางการดำเนินการเพื่อแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำแผนการดำเนินการเพื่อแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนหลักทรัพย์ฯ เพื่อเสนอขออนุมัติต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด

ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังคงมีคดีความกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ที่ยังอยู่ในระหว่างการเริ่มต้นการพิจารณาตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการอยู่ 2 คดีได้แก่ ข้อพิพาทสถาบันอนุญาโตตุลาการที่ 1/2550 ซึ่งบริษัทฯ ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550 (ก่อนถูกบอกเลิกสัญญาให้ดำเนินการฯ) เพื่อขอให้คณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดเรื่องค่าปรับผังรายการ และดอกเบี้ยของค่าอนุญาตให้ดำเนินการส่วนต่าง

และ ข้อพิพาทสถาบันอนุญาโตตุลาการที่ 46/2550 ซึ่งบริษัทฯ ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2550 (หลังจากถูกบอกเลิกสัญญาให้ดำเนินการฯ) เพื่อขอให้คณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดในกรณีที่ สปน. บอกเลิกสัญญา ไม่ชอบด้วยข้อกฎหมายและข้อสัญญาและปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหายและเรียกร้องให้ สปน.ชำระค่าเสียหายให้แก่บริษัทฯ โดยหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดได้ จำหน่ายคดีดำที่ 640/2550 ที่ สปน. เป็นผู้ฟ้องเรียกร้องให้บริษัทฯ ชำระค่าอนุญาตให้ดำเนินการส่วนต่าง ดอกเบี้ยค่าปรับผังรายการ มูลค่าทรัพย์สินที่ส่งมอบไม่ครบ รวมเป็นเงิน 101,865 ล้านบาท นำกลับมาเรียกร้องกับบริษัทฯ ในข้อพิพาทนี้

คดีพิพาททั้ง 2 คดี ยังอยู่ในการพิจารณาตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลานานกว่ากระบวนการยุติธรรมจะถึงที่สุด และผลของคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบที่เป็นสาระสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในระยะยาวของบริษัทฯ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทำการศึกษาแนวทางการดำเนินธุรกิจในหลายแนวทาง ทั้งการหาธุรกิจใหม่และการเข้าซื้อกิจการบริษัทอื่น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังไม่สามารถหาข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบในการศึกษาความเป็นไปได้ของแผนฟื้นฟูกิจการ

อีกทั้งสถานะงบการเงินรวมของบริษัทฯ ณ 31 มีนาคม 2554 บริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบอยู่ 3,583 ล้านบาท อีกทั้งมีภาระค่าใช้จ่ายทางบัญชีจากการสำรองเผื่อค่าดอกเบี้ยอันอาจเกิดขึ้นในกรณีที่บริษัทฯ แพ้คดีในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของค่าอนุญาตให้ดำเนินการส่วนต่าง 2,891 ล้านบาท (คิดคำนวณโดยนับจากวันที่ 14 ธันวาคม 2549) เป็นจำนวนเงินปีละประมาณ 436 ล้านบาท หรือไตรมาสละประมาณ 109 ล้านบาท ซึ่งในการดำเนินการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอน ตามแนวทางดำเนินการกับบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานหรือฐานะการเงินที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนของตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ จะต้องหาธุรกิจใหม่ที่สร้างผลกำไรสะสมได้เพิ่มขึ้น อย่างน้อย 3,883 ล้านบาท หรือมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจหลัก 1 ปี และมีธุรกิจหลักดำเนินการอย่างต่อเนื่องชัดเจน จึงจะพ้นจากเหตุแห่งการเพิกถอนหลักทรัพย์ฯ

ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า เนื่องจาก ITV ซึ่งอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (Non-Performing Group) ได้นำส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2554 ฉบับที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีมายังตลาดหลักทรัพย์ โดย ผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ความเชื่อมั่นต่องบการเงินของบริษัท ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงาน และฐานะการเงินของบริษัทที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ ตลาดหลักทรัพย์จึงแจ้งให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทราบและพิจารณาความเห็นของผู้สอบบัญชี ประกอบกับตัวเลขในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ