ตลท.ให้"น้ำตาลครบุรี"เข้าซื้อขายในกลุ่มเกษตรฯตั้งแต่ 27 พ.ค.ชื่อ"KBS"

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 25, 2011 14:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า บมจ.น้ำตาลครบุรี หรือ KBS จะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่ 27 พ.ค. 2554 โดยมีมูลค่าระดมทุน 1,365 ล้านบาท

KBS ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย และธุรกิจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์พลอยได้ที่ได้จากการผลิตน้ำตาลทราย มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 500 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 350 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 150 ล้านหุ้น เสนอขายในราคาหุ้นละ 9.10 บาท เมื่อวันที่ 19-20 และ 23 พ.ค. 2554 พร้อมนี้ผู้ถือหุ้นเดิมได้นำหุ้นมาร่วมเสนอขายอีก 26 ล้านหุ้น โดยมีบล.กสิกรไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่าย

“การเข้าจดทะเบียนของ KBS จะเป็นการเพิ่มโอกาสการลงทุนให้ผู้ลงทุน ได้ลงทุนในธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานของประเทศไทย และประเทศไทยยังเป็นผู้นำในการผลิตน้ำตาลทรายเพื่อการส่งออกและการบริโภค ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มการบริโภคในอัตราที่สูงขึ้น แสดงถึงโอกาสในการเติบโตของบริษัทฯ อีกทั้งการระดมทุนผ่านตลาดทุนจะช่วยสนับสนุนฐานเงินทุนให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น" นายชนิตรกล่าว

นายถกล ถวิลเติมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ KBS กล่าวว่า บริษัทฯ รู้สึกยินดีที่ได้เข้ามาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งมากขึ้น บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปขยายธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้า ขยายกำลังการผลิตน้ำตาล ลงทุนในการพัฒนาอุปกรณ์จักรกลเกษตร พัฒนาพันธุ์อ้อย และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ทั้งนี้มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทฯ ว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งผู้ลงทุนสถาบันและรายย่อย โดยผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 2,976 ล้านบาทในปีบัญชี 2551 เป็น 3,309 ล้านบาท และ 4,774 ล้านบาทในปีบัญชี 2552 และ 2553 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตถัวเฉลี่ยต่อปี (CAGR) เท่ากับร้อยละ 26.9

สำหรับระดับราคา IPO ที่ 9.10 บาทต่อหุ้น มาจากการสำรวจปริมาณความต้องการซื้อหุ้น (Book Building) ของผู้ลงทุนสถาบัน โดยคิดอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ประมาณ 8.58 เท่า (คำนวณจากกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมงวด 6 เดือนล่าสุด และปรับปรุงกำไรสุทธิเป็นรายปีเท่ากับ 532 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้น 500 ล้านหุ้น) KBS มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองตามกฎหมาย

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 4 รายแรก ภายหลังที่กลุ่มนายอิสสระ กลุ่มนายสมเกียรติ และกลุ่มนายถกล นำหุ้นเดิมส่งมอบให้แก่ประชาชนทั่วไป ในวันซื้อขายหลักทรัพย์วันแรก ได้แก่ บริษัท ครบุรี แคปิตอล จำกัด ถือหุ้น 26% กลุ่มนายอิสสระ ถวิลเติมทรัพย์ ถือหุ้น 19.40% กลุ่มนายสมเกียรติ ถวิลเติมทรัพย์ ถือหุ้น 9.70% และกลุ่มนายถกล ถวิลเติมทรัพย์ ถือหุ้น 9.70% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO ตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ