บมจ.ไทยคม (THCOM) ขอแจ้งว่าบริษัท ไอพีสตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ไพรเวท ลิมิเต็ด (iPSTAR International Private Limited) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ได้มีหมายกำหนดการจะลงนามในสัญญาให้บริการไอพีสตาร์ในประเทศมาเลย์เซียซึ่งรวมถึงแบนด์วิทและอุปกรณ์ภาคพื้นดิน กับบริษัทย่อยของบริษัท เมียแซ็ท โกลบอล จำกัด (MEASAT Global Berhad หรือ MEASAT) ในวันนี้เวลาประมาณ 11.00 นาฬิกา
สัญญานี้มีกำหนดระยะเวลา 10 ปี โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2554 การเซ็นสัญญาให้บริการไอพีสตาร์กับ MEASAT ในครั้งนี้ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญยิ่งอันหนึ่งของธุรกิจไอพีสตาร์ของบริษัทฯ
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ ประธานเจ้าหน้าที่คณะผู้บริหาร THCOM กล่าวว่า สัญญาให้บริการไอพีสตาร์กับมาเลเซียมีมูลค่าหลายพันล้านบาท ตลอดอายุสัญญาให้บริการ 10 ปี โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/54 และคาดว่าสิ้นปี 54 อัตราการใช้ช่องสัญญาณไอพีสตาร์จะเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 25%
การทำสัญญาเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม 4 ของ MEASAT มีสัญญาตลอดอายุสัญญาสัมปทาน 10 ปี ซึ่งบริษัทจะรับรู้หลายได้เป็นมูลค่าหลายพันล้านบาท เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3/54 และการขยายตลาดไปประเทศมาเลเซีย ทำให้อัตราการใช้ช่องสัญญาณของดาวเทียมไทยคม 4 เพิ่มเป็น 25% และปีนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มอัตราการใช้ช่องสัญญาณเป็น 30%
"ตอนนี้การใช้ช่องสัญญาณสูงกว่า 20% ถือว่าเข้าสู่จุดคุ้มทุนแล้ว แต่เป้าหมายปีนี้หวังจะเห็นที่ 30% ถ้าทำได้หวังว่าบริษัทจะกลับมามีกำไรเป็นครั้งแรกรอบหลายปี"นายอารักษ์ กล่าว
สำหรับพื้นที่ให้บริการดาวเทียมไทยคม 4 ที่จะขยายต่อไปในอนาคต คือ ประเทศเกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และพื้นที่เดิมที่มีการลงทุนก่อนหน้านี้ คือ จีนและอินเดีย โดยคาดหวังมีพื้นที่ให้บริการเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุม 13 ประเทศ และมีสถานีควบคุมภาคพื้นที่ 17 แห่ง ตลาดหลักที่มีสัดส่วนรายได้สำคัญ คือ ไทย ออสเตรเลีย และ ญี่ปุ่น
ส่วนความคืบหน้าการสร้างดาวเทียมไทยคม 6 เพื่อให้บริการ ขณะนี้มีการเจรจากับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) มีความคืบหน้าไปมาก และมีทัศนคติที่ดีต่อกัน โดยบริษัทถูกมองว่าเกี่ยวโยงกับกลุ่มการเมืองลดน้อยลงและเชื่อมั่นว่าจะสร้างความเข้าใจและสามารถดำเนินการสร้างดาวเทียมไทยคม 6 ได้ในอนาคต
นายอารักษ์ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองที่อยู่ระหว่างการเลือกตั้งยืนยันว่าจะไม่นำบริษัทเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใด ๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีกเหมือนที่ผ่านมา